3/29/2554

น้ำพริกปลาดุกปลาร้า

น้ำพริกปลาดุกปลาร้า
น้ำพริกปลาดุกปลาร้าสูตรนี้เลือกใช้ปลาดุกนาตัวเล็ก สังเกตหนังปลามีสีเทา เนื้อนุ่มมัน ไม่มีกลิ่นคาว

ส่วนผสมของน้ำพริกปลาดุกปลาร้า
พริกหนุ่ม 7 เม็ด
พริกขี้หนูสีแดงเม็ดใหญ่ 7 เม็ด
หอมแดง 5 หัว
กระเทียมกลีบใหญ่ 5 กลีบ
เนื้อปลาดุกต้มปลาร้า 1 ตัว
น้ำปลา 2 ช้อนชา
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำต้มปลาดุกปลาร้า 1/4 ถ้วย
ส่วนผสมของปลาดุกต้มปลาร้า
ปลาดุก (350 กรัม) 1 ดัว
น้ำปลาร้าต้มสุก 2 1/2 ถ้วย
ข่าแก่หั่นท่อนขนาด 1 นิ้ว ทุบ 2 ชิ้น
ตะไคร้หั่นท่อนขนาด 1 /2 นิ้ว ทุบ 1 ต้น
กระชายทุบ 2 ราก
หอมแดงทุบ 3 หัว
ใบมะกูรดฉีก 3 ใบ
พริกขี้หนูบุบ 5-6 เม็ด

1. ทำปลาดุกต้มปลาร้าโดยล้างปลาดุก ผ่าท้องเอาไส้และดีออก ล้างด้วยน้ำปูนแดงหรือปูนขาวจนหมดเมือก ล้างอีกครั้ง หั่นเป็นแว่นหนาประมาณ 2ซม. ล้างแล้วใส่ตะแกรงพักไว้ให้ละเด็ดน้ำ ต้มน้ำปลาร้าในหม้อด้วยไฟกลางจนเดือด ใส่ข่าตะไคร้ กระชาย หอมแดง ใบมะกรูด และพริกขี้หนูต้มพอเดือด ใส่ปลาดุก ต้มจนปลาสุก ตักใส่จานพักไว้ให้เย็น แกะเอาแต่เนื้อ (ไม่เอาหนัง) ใส่ถ้วยพักไว้
2. เสียบพริกหนุ่ม พริกขี้หนูสีแดงเม็ดใหญ่ หอมแดงและกระเทียม ด้วยไม้ลูกชิ้น แล้วนำไปย่างบนเตาถ่านด้วยไฟกลางค่อนข้างอบอุ่นให้ลุกหอม และเปลือกไหม้ ลอกเปลือกที่ไหม้ออก เตรียมไว้
3. โขลกพริกหนุ่ม พริกขี้หนูสีแดงเม็ดใหญ่ หอมแดงและกระเทียมที่ย่าง เข้าด้วยกันพอหยาบๆ ใส่เนื้อปลาดุกต้ม โขลกให้เข้ากัน ใส่น้ำปลา น้ำมะนาวและน้ำต้มปลาดุกปลาร้า คนให้เข้ากัน ชิมรสให้เค็มกลมกล่อมหวานเนื้อปลาดุก หอมกลิ่นปลาร้า
4. ตักใส่ถ้วย ตกแต่งด้วยต้นหอมซอย รับประทานกับผักต้ม



3/17/2554

น้ำพริกนรกปลาสลิด

น้ำพริกนรกปลาสลิด
น้ำพริกนรกปลาสลิด ต้องใช้ปลาสลิดแห้งๆ และต้องเป็นปลาสลิดสองแดด ครีบต้องกาง หางต้องแผ่ แต่ถ้าหางถูกฉีกจะเป็นปลาแช่แข็ง ซึ่งผิวจะเต่ง ตัวจะหนัก เวลาชั่งได้จำนวนตัวน้อย ปลาสลิดตัวผู้ ลำตัวยาวเรียวสีเข้ม ตัวเมียตัวสั้นป้อม มีน้ำหนักมากกว่า สีจางกว่า ปลาสลิดตัวผู้จะอร่อยกว่าตัวเมีย เพราะไม่ค่อยมีมัน รสจืดกว่าตัวเมีย เพราะหนังปลาสลิดตัวผู้หนากว่าตัวเมีย เกลือซึมเข้าได้ยาก

ส่วนผสมของน้ำพริกนรกปลาสลิด
ปลาสลิด (ตัวละ 55-60 กรัม) 7 ตัว
น้ำมันพืช 2 ถ้วย
พริกแห้งเม็ดใหญ่คั่วโขลกละเอียด 10 เม็ด
พริกขี้หนูแห้งคั่วโขลกละเอียด 20 เม็ด
หอมแดงซอยคั่ว 10 หัว
กระเทียมไทยแกะเปลือกคั่ว 1/4 ถ้วย
เนื้อมะขามเปียกสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

1.นึ่งปลาลลิดพอสุก พักให้เย็น แล่เอาเนื้อปลาทั้งสองด้าน วางผึ่งบนตะแกรงสักครูให้หนังปลาแห้ง
แกะเอาแต่เนื้อปลาสลิดแล้วสับจะได้ปริมาณ 2 ถ้วยผึ่งเนื้อปลาพอหมาด จากนั้นใส่ลงถอดในกระทะ
น้ำมันร้อนด้วยไฟกลางจนฟูกรอบ (อย่าทอดนานเนื้อปลาจะมีรสขม เพราะต้องนำไปคั่วอีกครั้งกับ
น้ำพริก) ตักขึ้น เตรียมไว้
2.โขลกพริกแห้งทั้งสองชนิดที่โขลกไว้กับหอมเเดงและกระเทียมดั่วเข้าด้วยกันให้ละเอียด ใส่เนื้อ
มะขามเปียก โขลกให้เข้ากันดี แล้วนำไปคั่วในกระทะที่ไม่ใส่น้ำมันด้วยไฟอ่อนมากๆสักครู่ แล้วใส่
เนื้อปลาลลิดทอด ผัดยีให้เนื้อปลาและน้ำพริกเข้ากันดี ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาล ผัดพอทั่วและแห้ง
ปิดไฟ ตักใส่อ่างผสม พักไว้ให้เย็น แล้วนำน้ำพริกปลาสลิดไปปั่นอีกครั้งเพื่อให้เนื้อปลาสลิดละเอียด
และฟูยิ่งขึ้น (เมื่อเย็นตักใส่ขวดโหลปิดฝาให้สนิท)
3. ตักน้ำพริกนรกปลาสลิดใส่ถ้วย รับประทานกับผักลด


น้ำพริกปลาป่น

น้ำพริกปลาป่น
น้ำพริกปลาป่นนั้น ใช้เนื้อปลากรอบเป็นส่วนผสมหลัก และปลากรอบก็มีหลายชนิดที่นิยมกัน เช่น ปลาเนื้ออ่อน ปลาสวาย ปลาช่อนทะเล ปลาช่อนเป็นต้น

ส่วนผสมของน้ำพริกปลาป่น
ปลากรอบ (ตัวละ200 กรัม) 2 ตัว
พริกขี้หนูแห้ง 1/2 ถ้วย
เกลือสมุทร 1/2 ช้อนชา
ผักสดมี แตงกวา ถั่วฝักยาว
ผักกาดขาว มะเขือชนิดต่างๆ ฯลฯ

1.ย่างปลากรอบด้วยไฟอ่อนอีกครั้งให้หอม แกะเอาแต่เนื้อ ตวงให้ได้ 1 ½ ถ้วย โขลกให้ละเอียดพักไว้
2.คั่วพริกแห้ง ไฟอ่อนให้เม็ดพริกพองกรอบ ตักขึ้นพักไว้ให้เย็นแล้วจึงโขลกให้ละเอียดเตรียมไว้
3.ผสมปลาป่นกับเกลือและพริกป่นเข้าด้วยกัน ตักใส่ขวดโหลปิดฝาให้สนิท
4.การรับประทานน้ำพริกปลาป่นนั้นรับประทานได้ทั้งแบบแห้งและแบบผสมน้ำต้มสุกโดยตักน้ำพริกปลาป่นใส่ถ้วย ใส่น้ำต้มสุกเล็กน้อย ปรุงรสด้วยน้ำมะนาวและน้ำปลาตามชอบ คนให้เข้ากัน รับประทานกับผักสด เช่น แตงกวา ถั่วฝักยาว มะเขือ เป็นต้น


3/16/2554

น้ำพริกไตปลาไข่ลูกเขย

น้ำพริกไตปลาไข่ลูกเขย
น้ำพริกไตปลาไข่ลูกเขย เมื่อรับประทานคู่กัน สามารถช่วยแก้เผ็ดได้ดี เพราะน้ำพริกไตปลาออกรสเค็มและเผ็ด ส่วนไข่ลูกเขยมีรสเปรี้ยวหวานเค็ม

ส่วนผสมของน้ำพริกไตปลา
ไตปลาดอง (เลือกที่ทำจากปลาทู ปลากระบอก และปลากะพง เลือกสีคล้ำออกแดง) 1/2 ถ้วย
น้ำซุปไก่หรือน้ำ 1/2 ถ้วย
ปลาดุกย่างแกะเนื้อ 1 ตัว
ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ
น้ำมะขามเปียล 3/4 ถ้วย
น้ำตาลปี้บ 1 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมของไข่ลูกเขย
ไข่เป็ด 4 ฟอง
น้ำมันพืช 1 ถ้วย
น้ำตาลปี๊บ 2/4 ถ้วย
น้ำมะขามเปียก 3/4 ถ้วย
น้ำปลา 1/4 ถ้วย
หอมแดงเจียว 1/4 ถ้วย

เครื่องแกงน้ำพริกไตปลา
พริกขี้หนูแห้ง 1/4 ถ้วย
ข่าแก่หั่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
ตะไคร้ซอย 2 ต้น
ผิวมะกรูดหั่นละเอียด 1/t ช้อนชา
พริกไทยดำเม็ด 1 ช้อนชา
กระเทียมไทยแกะเปลือก 1/4 ถ้วย
หอมแดงหั่น 5 หัว
กระชายขูดเปลือกซอย 3 ราก
ขมิ้นสดหั่น 1 1/2 ช้อนโต๊ะ กะปิ 2 ช้อนชา

1.ทำไข่ลูกเขยโดยต้มไข่เป็ด น้ำด้วยไฟกลาง จับเวลาตั้งแต่น้ำเดือดนาน 6-7 นาที ตักขึ้นใส่อ่างน้ำเย็น แกะเปลือกไข่ไข่ออก ใส่ไข่ลงทอดในกระทะน้ำมันด้วยไฟกลางจนสุกเหลืองทั่ว ตักใส่ชาม ตักน้ำมันออกจนหมด ใส่น้ำตาล ใส่น้ำมะขามเปียก และน้ำปลา เคี่ยวให้น้ำตาลละลาย ชิมรสให้เปรี้ยวเค็มหวาน ปิดไฟ ผ่าไข่ครึ่งฟองใส่ลงไป โรยหอมแดงเจียว
2. ทำน้ำพริกแกงโดยโขลกเครื่องแกงทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย พักไว้
3. เคี่ยวไตปลากับน้ำซุปไก่หรือน้ำในหม้อด้วยไฟกลางจนเดือด ยกลงกรองเอากากออก ใส่น้ำไตปลาที่เคี่ยวลงในหม้อ ใส่น้ำพริกแกงที่โขลก คนให้ทั่ว เคี่ยวจนขึ้นและมีกลิ่นหอม ใส่เนื้อปลาดุกย่าง คนพอทั่ว ฉีกใบมะกรูดใส่ ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียกและน้ำตาล ชิมรสให้เค็มเปรี้ยวกลมกล่อม ปิดไฟ
4. ตักน้ำพริกไตปลาใส่ถ้วย เสิร์ฟกับผักสด ผักลวกและผักต้ม และไข่ลูกเขย

3/09/2554

หลนปลาอินทรีเค็มเนื้อปู

หลนปลาอินทรีเค็มเนื้อปู
สูตรน้ำพริกที่จะเสนอในวันนี้ คือ หลน ซึ่งจะนำเสนอหลนปลาอินทรีเค็มเนื้อปู ซึ่งหลนปลาเค็มนั้นเป็นอาหารไทยที่มีรสเข้มข้นกลมกล่อม ทั้งเปรี้ยว หวาน มันกะทิ หลนที่ดีต้องข้น จิ้มผักติด สูตรนี้ได้เพิ่มความแปลกใหม่เข้าไปนิดหน่อย คือเพิ่มเนื้อปู ปูที่ใช้ต้องเนื้อไม่แหลก ไม่มีกลิ่นเหม็น การใส่ให้ใส่หลังจากปรุงรสแล้วเพื่อไม่ให้เนื้อปูเละ

ส่วนผสมของหลนปลาอินทรีเค็มเนื้อปู
หัวกะทิ 2 1/2 ถ้วย
ปลาอินทรีเค็มนึ่งแล้วยีให้ละเอียด 70 กรัม
เนื้อหมูสับ 100 กรัม
ตะไคร้ซอย 4 ต้น
น้ำตาลปี้บ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงซอย 1/2 ถ้วย
เนื้อปูนึ่งแกะ 3/4 ถ้วย
ใบมะกรูดซอย 2 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูสวน 9 เม็ด

วิธีทำหลนปลาอินทรีเค็มเนื้อปู
1. เคี่ยวหัวกะทิ 1 1/2 ถ้วยในกระทะด้วยไฟกลางจนเดือดและแตกมัน ใส่ปลาอินทรีเค็ม และเนื้อหมูสับ คนให้ทั่วและหมูสุก ใส่หัวกะทิที่เหลือ เคี่ยวให้เดือด ใส่ตะไคร้ ปรุงรสด้วยน้ำตาล และน้ำมะขามเปียก คนให้ทั่ว ชิมรสให้เปรี้ยวหวานเค็มกลมกล่อม ใส่หอมแดง เนี้อปูแกะ คนให้ทั่ว ใส่ใบมะกรูดซอย และพริกขี้หนูสวน ปิดไฟ
2. ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟหลนปลาอินทรีเค็มเนื้อปูกับผักสด เช่น ขมิ้นขาว แตงกวา ถั่วพู

3/02/2554

น้ำพริกระกำ

น้ำพริกระกำ

น้ำพริกระกำเป็นน้ำพริกที่มีรสชาติ เปรี้ยว เผ็ด เค็ม หวานเล็กน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบทานน้ำพริกรสเผ็ดจัด และทางภาคใต้ก็นิยมใช้รสเปรี้ยวจากระกำแทนมะนาว ซึ่งในน้ำพริกสูตรนี้ถ้าระกำไม่เปรี้ยวพอก็สามารถเติมมะนาวลงไปได้

ส่วนผสมของน้ำพริกระกำ
ระกำเปรี้ยว (ระกำเปรี้ยวเปลือกมีสีส้มไม่ออกสีแดงคล้ำแบบระกำหวาน) 8 เม็ด
พริกขี้หนูสวน 2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมไทยแกะเปลือก 15 กลีบ
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 1 ช้อนชา

วิธีทำน้ำพริกระกำ
1. ล้างระกำ (มีเคล็ดลับนิดหน่อยในการปอกเปลือกคือ การแกะเปลือกระกำควรใช้มือหนึ่งจับด้านขั้วผล แล้วใช้หัวแม่มือและนิ้วชี้บีบที่ปลายผลเมื่อยุบตามแรงบีบก็ค่อยๆ บิดเปลือกตรงก้นผล แล้วดึงเปลือกวนออกเป็นเกลียว เปลือกจะหลุดล่อนออกโดยไม่ฉีกขาดและหนามไม่แทงมือ)ลอกเยื่อสีขาวออก หั่นเป็นชิ้น (แบ่งไว้
โรยหน้าเล็กน้อย) ใล่ถ้วย เตรียมไว้
2. โขลกพริกขี้หนู กระเทียม และกะปิ เข้าด้วยกันพอหยาบ ใส่ระกำ โขลกเข้าด้วยกัน ใส่น้ำตาล(ถ้าระกำเปรี้ยวไม่เปรี้ยวมากให้ใส่น้ำมะนาว) คนให้เข้ากัน ชิมรสให้ เปรี้ยว เผ็ด เค็ม และหวานเล็กน้อย
3. ตักใส่ถ้วย โรยระกำที่แบ่งไว้ ก็จะได้น้ำพริกระกำรสจัดจ้าน ไว้รับประทานกับผักสด ผักต้ม และปลาทู

ระกำเปรี้ยว