11/05/2555

หลนปลาร้า


หลนปลาร้า

สูตรน้ำพริกวันนี้ ขอเสนอหลนปลาร้าจัดเป็นน้ำพริกที่มีกะทิผสม   ผู้เขียนเห็นว่าต้องกินกับข้าวเจ้าเท่านั้น ถึงจะอร่อย ไปด้วยกันกับข้าวเหนียวไม่ค่อยได้ เพราะตักน้ำพริกมาคลุกข้าวแล้วมันดูไม่เข้ากันเท่าไหร่ แล้วปลาร้าควรเลือกใช้ปลาร้าปลากระดี่ ซึ่งจะมีกลิ่นหอม รสเค็มนัว สีน้ำตาล ไม่ดำ ถึงจะดี ทำหลนปลาร้าอร่อย

ส่วนผสม
หัวกะทิ 2   ถ้วย
ปลาร้าปลากระดี่ 150 กรัม
ตะไคร้หั่นท่อนขนาด 2 นิ้ว 3 ต้น
ใบมะกรูด 5 ใบ
ลูกมะกรูด 1 ลูก
กระชายทุบ 9 ราก
หอมแดงทุบ 5 หัว
พริกชี้ฟ้าสีแดง เหลือง และเขียว เผาอย่างละ 1 เม็ด
น้ำมะกูรด  1/2 ช้อนโต๊ะ
ผักสดสำหรับกินคู่กับน้ำพริก เช่น ขมิ้นขาว ผักบุ้ง แตงกวา มะเขือต่างๆ


 วิธีทำหลนปลาร้า
1. ต้มหัวกะทิในหม้อด้วยไฟกลางจนเดือด ใส่ปลาร้าลงไปเคี่ยวจนเนื้อปลาสุกเละ แล้วกรองออกเอาแต่น้ำกะทิหลนปลาร้า
2. เอาน้ำกะทิหลนปลาร้าใส่หม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางพอเดือด ใส่ตะไคร้ทุบ ใบมะกรูดฉีก  บีบน้ำมะกรูดใส่ประมาณครึ่งลูก เคี่ยวจนมีกลิ่นหอม
3. ใส่กระชาย พอข้นแล้ว ใส่หอมแดง พริกชี้ฟ้า ปรุงรสด้วยน้ำมะกรูด
4. ชิมรสให้เค็มหวานมันกะทิ หอมมะกรูด แล้วก็ปิดไฟ
5. ตักหลนปลาร้าใส่ถ้วย รับประทานกับผักสด


10/30/2555

น้ำพริกลงเรือ


น้ำพริกลงเรือ
น้ำพริกลงเรือเป็นน้ำพริกที่คนนิยมรับประทาน แม้แต่ในโรงแรมก็ยังนำไปเป็นเมนูน้ำพริกยอดนิยม อาจจะเป็นเพราะมีเครื่องเคียงทั้งหมูหวาน ไข่เค็ม และปลาดุกฟูทำให้น้ำพริกดูดีและน่ารับประทานยิ่งขึ้น

ส่วนผสมน้ำพริกลงเรือ
1. กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ
2. กระเทียมไทยแกะเปลือกซอย 9 กลีบ
3. มะอึกหั่นชิ้นบาง 1 ลูกใหญ่
4. พริกขี้หนูสวนสีเขียวและแดง 15 เม็ด
5. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำมันพืช 1/4 ถ้วย
8. กุ้งแห้งโขลกละเอียด  1/2 ถ้วย
9. หมูหวาน    1/2 ถ้วย
10. ไข่เค็มต้มสำหรับโรยหน้า
11. มะอึกหั่นชิ้นบางและพริกขี้หนูสำหรับตกแต่ง
12. ผักสดมี แตงกวา ถั่วฝักยาว ผักกาดขาว กะหล่ำปลี ขมิ้นขาว มะเขือชนิดต่างๆ ฯลฯ
13. เครื่องเคียงมี หมูหวานและปลาดุกฟู

การทำหมูหวาน
1. หอมแดงซอย 1/4  ถ้วย
2. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำตาลปี๊บ 1/4 ถ้วย
4. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
5. เนื้อหมูสามชั้นหรือติดมันหั่นชี้นเล็ก 100 กรัม

การทำปลาดุกฟู
1. ปลาดุกย่าง 1 ตัว
2.  เกล็ดขนมปัง 1/4 ถ้วย
3. น้ำมันพืช 3 ถ้วย

วิธีทำน้ำพริกลงเรือ
เริ่มแรกเราจะทำหมูหวานและทำปลาดุกฟูก่อน
1. ทำหมูหวานโดยผัดหอมแดงกับน้ำมันในกระทะด้วยไฟกลางจนสุกหอม ใส่น้ำตาล น้ำปลา และเนื้อหมู
ผัดพอสุก ลดไฟอ่อน เคี่ยวจนเนื้อหมูขึ้นเงาสวยปิดไฟ ตักใส่ถ้วย พักไว้
2. ทำปลาดุกฟูโดยแกะปลาดุกย่างเอาแตเนื้อ (เอาก้างและหนังออก) ลับให้ละเอียด ผึ่งให้เนื้อปลาแห้ง
สักครู่ เมื่อจะทอดจึงใส่เกล็ดขนมปัง เคล้าให้เข้ากันลงทอดในกระทะน้ำมันร้อนจัดด้วยไฟกลาง พอปลา
ดุกฟูเต็มที่ ลดไฟลง ใช้ตะหลิวตักน้ำมันราดให้ทั่วทอดให้ฟูเหลืองและกรอบทั่ว ตักขึ้น
3.ห่อกะปิด้วยใบตอง ปิ้งบนไฟกลางพอหอม แล้วโขลกกะปิกับกระเทียมเข้าด้วยกันให้ละเอียด ใส่มะอึกโขลกเบาๆให้เข้ากัน ใล่พริกขี้หนู บุบพอแตก ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ คนให้ทั่ว
4. ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลาง พอร้อนใส่น้ำพริกที่โขลกลงผัดให้เข้ากัน ใส่กุ้งแห้งและหมูหวาน ปรุง
รสด้วยน้ำมะนาวที่เหลือ ผัดให้เข้ากันทั่ว ปิดไฟชิมรสให้หวาน เปรี้ยว และเค็มกระปิ เผ็ดกลางๆ
ตักใส่ถ้วย โรยไข่เค็มต้ม ตกแต่งด้วยมะอึกหั่นชิ้นบางและพริกขี้หนู รับประทานน้ำพริกลงเรือกับผักสดและเครื่องเคียง


10/17/2555

น้ำพริกกะปิเจ


น้ำพริกกะปิเจ
ช่วงเดือน ตุลาคมเป็นช่วงกินเจ  ดังนั้นสูตรน้ำพริกวันนี้ เรามาทำน้ำพริกกะปิเจกันดีกว่าค่ะ กะปิเจนั้น ทางเหนือเรียกว่า ถั่วเน่า มีรสเค็ม และถั่วเน่าจะมี 2 ลักษณะ คือ เป็นแบบเปียกและแบบแห้ง  ถ้าแบบเปียกเรียกว่า ถั่วเน่าเมอะ ถ้าเป็นแบบแห้ง เรียกว่า ถั่วเน่าแข็บ เคล็ดลับการใช้ให้หอมอร่อยคือ ถ้าใช้แบบแห้งให้นำไปย่างไฟอ่อนๆ จนหอมก่อน แต่ถ้าเป็นแบบเปียก ก็นำมาห่อใบตองแล้วนำไปย่างไฟให้หอม

ส่วนผสมและเครื่องปรุง
1. กระเทียมไทยแกะเปลือก 20 กลีบ
2. กะปิเจชนิดเปียก 2 1/2 ช้อนโต๊ะ
3. พริกขี้หนูสีเขียวและแดง 15 เม็ด
4. มะเขือพวง 10 ลูก
5. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
6. เกลือสมุทร 1/4 ช้อนชา
7. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
8. น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
9. น้ำต้มสุก 2 ช้อนโต๊ะ
10. ผักสดสำหรับกินแกล้ม

วิธีทำน้ำพริกกะปิเจ
1. โขลกกระเทียมกับกะปิเจเข้าด้วยกันให้ละเอียด ใส่พริกขี้หนูและมะเขือพวง บุบพอแตก
2. ปรุงรสด้วย น้ำตาล เกลือ ซีอิ๊วขาว และน้ำมะนาว  คนให้ทั่ว แล้วเติมน้ำต้มสุก คนอีกครั้ง ชิมรสให้เปรี้ยว เค็ม หวาน
3. ตักน้ำพริกเจใส่ถ้วย รับประทานกับผักสด

9/14/2555

น้ำพริกปลาทู


น้ำพริกปลาทูนี้สามารถทำได้ทั้งแบบแห้งและแบบเปียก คือ ถ้าชอบแบบแห้งก็ไม่ต้องใส่น้ำต้มสุกนั่นเอง รับประทานกับผักสดผักลวก อร่อย มีประโยชน์แบบราคาถูก

ส่วนผสม
1. ปลาทูทอดหรือย่างแล้วแกะเฉพาะเนื้อ 3 ตัว
2. พริกชี้ฟ้าเขียวหรือพริกหนุ่ม 5 เม็ด
3. หอมเล็กแกะเปลือก 5 หัว
4. กระเทียมแกะเปลือก 10 กลีบ
5. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
8. น้ำต้มสุก 3-4 ช้อนโต๊ะ
9. ผักลวกต่างๆ เช่น ดอกขจร บวบ ผักบุ้ง

วิธีทำ
1. คั่วพริกชี้ฟ้าหรือพริกหนุ่ม หอมเล็ก และกระเทียมจนสุก พักไว้
2. โขลกส่วนผสมในข้อ 1 ให้ละเอียด แล้วใส่ปลาทูลงไปโขลกผสมจนเข้ากันดี
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลทราย คนให้ส่วนผสมเข้ากัน เติมน้ำต้มสุกลงไปคนให้เข้ากันอีกครั้ง แล้วตักใส่ถ้วย รับประทานกับผักพวกต่าง ๆตามชอบ
น้ำพริกปลาทู



8/22/2555

สูตรน้ำพริกปลากระป๋อง


นัำพริกปลากระป๋อง

น้ำพริกสูตรนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากทานผักน้ำพริกแต่ไม่อยากเตรียมเครื่องอะไรยุ่งยาก ดังนั้นสูตรน้ำพริกสูตรนี้จะช่วยได้เยอะทีเดียว

เครื่องปรุงและส่วนผสม
1. ปลากระป๋องสามแม่ครัว 1 กระป๋อง
2. พริกป่นแท้ 2 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำตาล 1 ช้อนชา
5. ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
6. น้ำปลาแท้ 1 ช้อนชา
7. กระเทียมทุบ 5 กลีบ

วิธีทำ
1. ตั้งน้ำมันให้ร้อน ใส่กระเทียม
2. พอกระเทียมเหลือง เทปลากระป๋องใส่ ผัดให้เข้ากัน
3. ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาล พริกป่น ผงปรุงรส
4. ชิมรสให้ถูกใจ ตักน้ำพริกปลากระป๋องใส่ถ้วย รับประทานกับผักสด ผักต้ม แนมด้วยไข่ต้มหมูทอดอร่อยสุดๆ
ปลากระป๋องสามแม่ครัว

6/16/2555

สูตรน้ำพริกหนุ่ม


น้ำพริกหนุ่มนั้นเรียกได้เลยทีเดียวว่า เป็นน้ำพริกปลาร้าของภาคเหนือ เป็นอาหารที่มีประจำสำรับกับข้าวของชาวเหนือ ซึ่ง่งวิธีการทำสูตรน้ำพริกหนุ่มมีดังนี้

ส่วนผสมของสูตรน้ำพริกหนุ่ม
1. พริกหนุ่ม 7 เม็ด
2. มะเขือเทศลูกเล็ก 6 ลูก
3. กระเทียมกลีบเล็ก 2 หัว
4. หอมเล็ก 5 หัว
5. เกลือ 1 ช้อนชา
6. ต้นหอมหั่น 2 ต้น
7. ใบตอง
8. แคบหมู ผักสดตามชอบ

สูตรน้ำพริกหนุ่ม
วิธีทำสูตรน้ำพริกหนุ่ม
1. ย่างพริกหนุ่ม มะเขือเทศ กระเทียม หอมเล็กจนสุกหอม แล้วลอกเปลือกออกพักไว้
 2. ห่อปลาร้าด้วยใบตองหลาย ๆชั้นเเล้วนำไปย่างให้หอม พักไว้
3. โขลกพริกหนุ่ม กระเทียม หอมเล็กในข้อแรก กับเกลือเข้าด้วยกันจนละเอียด ใส่ปลาร้าและมะเขือเทศลงไปโขลกให้เข้ากัน
4. ตักน้ำพริกสูตรน้ำพริกหนุ่มใส่ถ้วย โรยต้นหอม ผักชี รับประทาน กับผักสดหรือแคบหมูตามชอบ


5/09/2555

สูตรน้ำพริกนรก


สูตรน้ำพริกนรกเป็นสูตรที่มีรสชาติเผ็ดร้อน ซึ่งความเผ็ดร้อนและความหอมนั้นจะขึ้นอยู่กับพริกที่เลือกใช้ด้วย พริกกะเหรี่ยงจะเผ็ดมากที่สุด พริกหัวเรือคือ พริกขี้หนูที่เม็ดพริกอ้วนใหญ่ที่สุด มีสีแดงเข้ม เผ็ดกลาง กลิ่นหอม เนื้อพริกมาก เมล็ดน้อย พริกยอดสน คือ พริกขี้หนูแห้งที่นิยมกันมาก เพราะมีกลิ่นหอม ส่วนพริกจินดานั้น มีเม็ดพริกเรียวยาว ตำแหลกง่าย เผ็ดมาก มีเมล็ดมาก ใครชอบรสชาติแบบไหนก็เลือกได้ตามชอบ ส่วนในสูตรน้ำพริกนรกสูตรนี้จะนำพริกขี้หนูแห้งมาเป็นตัวอย่างในการทำน้ำพริกครั้งนี้

สูตรและส่วนผสมของน้ำพริกนรก
กระเทียมไทยแกะเปลือก 1/4 ถ้วย
หอมแดงหั่น 1/4 ถ้วย
เนื้อมะขามเปียกสับละเอียด 1/4 ถ้วย
กะปิ 2 ช้อนชา
พริกขี้หนูแห้งคั่วป่น 1/4 ถ้วย
กุ้งแห้งป่น 1/2 ถ้วย
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร 1/4 ช้อนชา
กุ้งแห้งและพริกขี้หนูสีแดงสำหรับตกแต่ง
ผักสดมี ผักชี กะหล่ำปลี มะเขือชนิดต่างๆ ฯลฯ
ผักต้มมี กระเจี๊ยบเขียว

วิธีทำน้ำพริกนรก
1. โขลกกระเทียมกับหอมแดงเข้าด้วยกันให้ละเอียดใส่เนื้อมะขามเปียก กะปิ และพริกป่น โขลกต่อจน
เข้ากันดี ใส่กุ้งแห้ง โขลกให้ละเอียดเข้ากันดี ตักใส่ถ้วย เตรียมไว้
2. ตั้งกระทะบนไฟอ่อน (โดยไม่ต้องใส่น้ำมัน) แล้วใส่น้ำพริกที่โขลกลงผัดให้หอม ปรุงรสด้วยน้ำปลาและเกลือ ผัดจนน้ำพริกแห้งดี ปิดไฟ ชิมรสให้เผ็ดเค็ม(เมื่อเย็นตักใส่ขวดโหลปิดฝาให้ลนิท)
3. ตักใส่ถ้วย  รับประทานกับผักสดและผักต้ม อาจจะแนมด้วยไข่ต้มก็ได้เพื่อลดเผ็ด

4/07/2555

น้ำพริกแกงที่นิยมรับประทานของภาคกลาง


พริกแกงนั้นเป็นส่วนผสมที่ใช้สำหรับปรุงอาหารแต่ละอย่าง แต่ละประเภท และโดยทั่วไปน้ำพริกแกงของแต่ละภาคจะมีความแตกต่างกัน ตามแต่ความนิยมของคนในภาคนั้นๆ สูตรน้ำพริกวันนี้ เราจะนำสูตรน้ำพริกแกงที่จะใช้ประกอบอาหาร ดังนี้ ซึ่งเราได้ยิ่งตัวอย่างน้ำพริอแองที่ใช้ประกอบการปรุงอาหารในเมนูทื่นำเสนอของ
ภาคกลางไว้ดังนี้
น้ำพริกแกงภาคกลาง-น้ำพริกแกงเผ็ด
ส่วนผสมที่เตรียมไว้ให้สำหรับคนที่ทานเผ็ดปานกลาง แต่ถ้าใครชอบเผ็ดมากก็สามารถผสมพริกขี้หนูแห้งที่แช่น้ำแล้ว ลงไปโขลกผสมด้วยประมาณ 10 เม็ด
และถ้าใครชอบอาหารภาคใต้ ก็ยังพลิกแพลงน้ำพริกแกงเผ็ดนี้ไปทำเป็นน้ำพริกแกงคั่วภาคใต้ได้
อีกต่างหากโดย ใส่ขมิ้นชันหั่นหนาประมาณ 2 ซม. ลงไปผสมแล้วโขลกให้ละเอียด ก็จะได้น้ำพริกแกงสำหรับทำแกงภาคใต้ได้แล้ว
น้ำพริกแกงเผ็ด
ส่วนผสมของน้ำพริกแกงเผ็ด
1.พริกชี้ฟ้าแห้ง 5 เม็ด
2. ข่าหั่นละเอียด 1 ช้อนชา
3. ตะไคร้ซอย 1 ช้อนชา
4. ผิวมะกรูดหั่นละเอียด ½ ช้อนชา
5. รากผักชีหั่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
6. หอมเล็กหั่นหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ
7. กระเทียมหั่นหยาบ 3 ช้อนโต๊ะ
8. กะปิ 1 ช้อนชา
9. พริกไทยเม็ด ½ ช้อนชา
10. เกลือป่น 1 ช้อนชา

วิธีทำ
1. แกะเม็ดในของพริกออก หั่นหยาบๆ แล้วนำไปแช่น้ำให้นิ่ม บีบน้ำออก
2. โขลกพริกกับเกลือให้ละเอียด ใส่ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด รากผักชี พริกไทย โขลกต่อจน
ส่วนผสมละเอียด
3. ใส่หอมเล็กและกระเทียมลงไปโขลกจะละเอียดดีจากนั้นใส่กะปิลงไปผสม ให้เข้ากัน
จะได้น้ำพริกแกงสำเร็จประมาณ ¼ ถ้วย


น้ำพริกแกงภาคกลาง-น้ำพริกแกงเขียวหวาน
ส่วนผสมน้ำพริกแกงเขียวหวาน

1.พริกชี้ฟ้าเขียว 2 เม็ด
2.พริกชี้ฟ้าเหลือง 3 เม็ด
3.พริกขี้หนู 10 เม็ด
4.ข่าหั่นละเอียด 1 ช้อนชา
5.ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
6.ผิวมะกรูดหั่นละเอียด ½ ช้อนชา
7.ผักชีทั้งต้นหั่นละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ
8.หอมเล็กหั่นหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ
9.กระเทียมหั่นหยาบ ¼ ถ้วย
10.กะปิ 1 ช้อนชา
11.ลูกผักชีคั่วบดละเอียด 1 ช้อนชา
12.ยี่หร่าคั่วบดละเอียด ½ ช้อนชา
13.เกลือป่น 1 ช้อนชา
น้ำพริกแกงเขียวหวาน
วิธีทำ

1. โขกพริกชี้ฟ้าเขียว เหลือง และพริกขี้หนูกับเกลือให้ละเอียด ใส่ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด ผักชี โขลกต่อจนส่วนผสมละเอียด
2. ใส่หอมเล็กและกระเทียมลงไป โขลกจนละเอียดดี จากนั้นใส่กะปิ ลูกผักชี และยี่หร่า ลงไปผสมให้เข้ากัน จะได้น้ำพริกแกงสำเร็จประมาณ ½ ถ้วย แต่ถ้าอยากให้น้ำพริกมีกลิ่นหอมยิ่งขึ้น ผสมรากผักชีหั่นหยาบลงในน้ำพริกแกงประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ แล้วโขลกให้ละเอียดจนเป็นเนื้อเดียวกัน
น้ำพริกแกงภาคกลาง-น้ำพริกแกงมัสมั่น

ส่วนผสมน้ำพริกแกงมัสมั่น

1.พริกชี้ฟ้าแห้ง 4 เม็ด
2.ข่าหั่นละเอียดคั่ว ½ ช้อนชา
3.ตะไคร้ซอยคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
4.หอมเล็กเผาหั่นหยาบ 3 ช้อนโต๊ะ
5.กระเทียมเผาหั่นหยาบ ¼ ถ้วย
6.กะปิเผา 1 ช้อนชา
7.ลูกผักชีคั่วบดละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
8.ยี่หร่าคั่วบดละเอียด 1 ช้อนชา
9.กานพลูคั่ว 2 ดอก
10.พริกไทยเม็ด ¼ ช้อนชา
11.เกลือป่น 1 ช้อนชา
น้ำพริกแกงมัสมั่น
วิธีทำ

1. แกะเม็ดในของพริกออก หั่นหยาบๆ แล้วนำไปแช่น้ำให้นิ่ม บีบน้ำออก
2. โขลกพริกกับเกลือให้ละเอียด ใส่ข่า ตะไคร้ พริกไทย โขลกต่อจนส่วนผสมละเอียด
3. ใส่หอมเล็ก กระเทียม โขลกจนละเอียดดี ตามด้วยลูกผักชี ยี่หร่า กานพลู และกะปิ
โขลกให้ส่วนผสมเข้ากันอีกครั้ง จะได้น้ำพริกแกงสำเร็จประมาณ ½ ถ้วย

ข้อควรรู้

การคั่วเครื่องเทศต่างๆ ก่อนนำมาโขลกเข้าด้วยกันจนละเอียดจะทำให้น้ำพริกแกงมีกลิ่น
หอมมากยิ่งขึ้น และยังสามารถเก็บไว้ได้นาน


น้ำพริกแกงภาคกลาง-น้ำพริกแกงพะแนง

ส่วนผสมน้ำพริกแกงพะแนง

- พริกชี้ฟ้าแห้ง 7 เม็ด
- ข่าหั่นละเอียด 1 ช้อนชา
- ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- ผิวมะกรูดหั่นละเอียด ½ ช้อนชา
- รากผักชีหั่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
- หอมเล็กหั่นหยาบ 3 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมหั่นหยาบ ¼ ถ้วย
- ลูกผักชีคั่วบดละเอียด 2 ช้อนชา
- ยี่หร่าคั่วบดละเอียด 1 ช้อนชา
- ถั่วลิสงคั่วป่นละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
- กะปิ 1 ช้อนชา
- พริกไทยเม็ด ¼ ช้อนชา
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
น้ำพริกแกงพะแนง
วิธีทำ

1. แกะเม็ดพริกออก หั่นหยาบๆ แล้วนำไปแช่น้ำให้นิ่ม บีบน้ำออก
2. โขลกพริกกับเกลือให้ละเอียด ใส่ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด รากผักชี พริกไทย โขลกต่อจนส่วนผสมละเอียด
3. ใส่หอมเล็กและกระเทียมลงไป โขลกจนละเอียด จากนั้นใส่กะปิ ลูกผักชี ยี่หร่า และถั่วลิสงป่นลงไปโขลกให้เข้ากันอีกครั้ง จะได้น้ำพริกแกงสำเร็จประมาณ ¼ ถ้วย

สูตรน้ำพริกแกง 4 สูตรข้างต้น นี้ สามารถเลือกไปปรุงอาหารให้เหมาะกับประเภทของ และความชอบของผู้ที่จะรับประทานได้อย่างสะดวกทีเดียว



3/21/2555

น้ำพริกผักชี

น้ำพริกผักชี

น้ำพริกจานนี้นอกจากจะอร่อยแล้ว ก็ยังมีคุณค่าทางอาหารอีกด้วย เช่น ใบผักชี มีสรรพคุณในทางเป็นสมุนไพรคือ จะใชัในการช่วยย่อย บำรุงกระเพาะ เจริญอาหาร ขับลมขับพิษ แก้หวัด ขับเหงื่อ ช่วยย่อยอาหาร ลดน้ำตาลในเลือด แก้โรคหัด พอกทาแก้ผื่นคัน แก้ไฟลามทุ่ง แก้ตับอักเสบ ลดการปวดบวมข้อ ต้มดื่มแก้ไอ แก้หวัด อาหารเป็นพิษ แก้สะอึก กระตุ้นการทำงานของเลือดพลาสมา และกล้ามเนื้อ

น้ำพริกจานนี้สามารถใช้ปลาสดได้ทุกชนิด ถ้าเป็นปลาตัวเล็ก เช่น ปลาทู ควรบั้งก่อน ถ้าตัวใหญ่ควร
จะแล่เป็นชิ้นตามความต้องการ และสามารถทำให้สุกได้ด้วยเตาไมโครเวฟโดยห่อด้วยใบตองก่อน

ส่วนผสมน้ำพริกผักชี
กะปิห่อใบตองปิ้งให้สุก 2 ช้อนโต๊ะ
ผักชีหั่นหยาบ ๆ ½ ถ้วยตวง
กระเทียม 3 ช้อนโต๊ะ
กุ้งนางตัวขนาดกลาง เผาพอสุกหั่นละเอียด 1 ถ้วยตวง
น้ำมะนาว 3 ช้อนใต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1- 2 ช้อนใต๊ะ
พริกขี้หนู
น้ำปลา

วิธีทำน้ำพริกผักชี
1. โขลกกะปิกับพริกและกระเทียมพอแหลก แล้วใส่กุ้ง ผักชีคลุกเคล้าให้เข้ากัน
2. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำมะนาว คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง รับประทาน
กับ ผักชี

น้ำพริกจานนี้ทำง่าย อร่อยและยังมีคุณค่าไม่เบา เหมาะสำหรับทุกเพศเลยทีเดียว

ผักชี