10/18/2554

น้ำพริกมะม่วง

น้ำพริกมะม่วง

น้ำพริกสูตรนี้เป็นสูตรน้ำพริกจากภาคใต้ จะให้รสชาติเปรี้ยวเผ็ด เหมาะสำหรับคนที่ชอบรสชาติจัดจ้าน

ส่วนผสมน้ำพริกมะม่วง
มะม่วงเปรี้ยวสับเป็นเส้น 4 ลูก
เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูสวน 20 เม็ด
กะปิ 2 ช้อนชา
หอมเล็กซอยหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
ผักต่างๆ เช่น กระเจี๊ยบเขียวลอก ดอกขจรลวก ถั่วฝักยาวลวก ผักบุ้งลวก ยอดแคลวก เป็นต้น

1. เคล้ามะม่วงกับเกลือเข้าด้วยกัน แล้วคั้นน้ำออก นำไปล้างน้ำ พักให้แห้ง
2. โขลกพริกขี้หนู พอบุบใส่กะปิ หอมเล็กและน้ำตาลทรายลงไป โขลกต่อให้ส่วนผสมเข้ากัน
3. ใส่กุ้งแห้งและมะม่วงที่เตรียมไว้ในลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟพร้อมกับผักลวกหรือผักสดต่าง ๆ ตามชอบ
มะม่วงเปรี้ยว

10/14/2554

น้ำพริกมะเขือยาว



น้ำพริกมะเขือยาว
น้ำพริกสูตรนี้จะมีรสหวานจากเนื้อมะเขือยาวเผาสีเขียว การเลือกมะเขือยาวให้เลือกที่ยังอ่อน สังเกตจากเปลือกนั้นจะมีสีเขียวอ่อน ลูกตรง ขนาดกำลังดีไม่ใหญ่การเผาให้เผาบนเตาถ่านใช้ไฟแรงจนเปลือกไหม้ มะเขือยาวจะสุกนุ่ม กลิ่นหอม ไม่แข็งกระด้าง จากนั้นแช่ในอ่างน้ำสักครู่ จะลอกเปลือกออกได้ง่าย มะเขือยาวจะมีสีเขียวน่ารับประทาน

ส่วนผสมและเครื่องปรุงสำหรับทำน้ำพริกมะเขือยาว
มะเขือยาว (200-250 กรัม) 1 ลูก
พริกชี้ฟ้าสีเหลืองและแดง 4 เม็ด
หอมแดง 5 หัว
กระเทียมไทย 1 หัว
เกลือสมุทร 1 ช้อนชา
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่ต้มสุกหั่นชิ้นเล็ก 1 ฟอง
ผักสดมี สะระแหน่ ยอดกระถิน
ถั่วฝักยาว แตงกวา ผักกาดขาว
ผักติ้ว พริกหวานสีแดงหั่นแท่ง ผักกระเฉด ฯลฯ

วิธีทำน้ำพริกมะเขือยาว
1. เผามะเขือยาวบนเตาถ่านด้วยไฟแรงจนสุกและเปลือกไหม้ ลอกเอาเปลือกที่ไหม้ออก หั่นเป็นท่อน
ยาว 1 นิ้ว ใล่จาน เตรียมไว้
2. เสียบพริกชี้ฟ้า หอมแดง กระเทียม ด้วยไม้ลูกชิ้นแล้วนำไปอย่างบนเตาถ่านด้วยไฟกลางค่อนข้างอ่อน
ให้ลุกหอมและเปลือกไหม้ ลอกเปลือกที่ไหม้ออกเตรียม ไว้
3. โขลกพริกชี้ฟ้าอย่างกับหอมแดงย่างและกระเทียมย่างเข้าด้วยกันให้ละเอียด ใส่มะเขือยาวเผาและเกลือ โขลกต่อให้เข้ากัน แล้วผัดน้ำพริกมะเขือยาวที่โขลกกับน้ำมันในกระทะด้วยไฟกลางพอหอม ปิดไฟ ใส่ไข่ต้ม คนให้เข้ากัน
4. ตักน้ำพริกมะเขือยาวใล่ถ้วยสำหรับจัดเลิร์ฟ รับประทานกับผักลด
มะเขือยาว

10/10/2554

น้ำพริกลงเรือ หมูหวาน น้ำพริกต่างๆ


สูตรน้ำพริกต่างๆ ครั้งนี้ ขอนำเสนอน้ำพริกลงเรือ แถมด้วยหมูหวาน เป็นน้ำพริกที่ดูดีและนำมาเป็นอาชีพสามารถขึ้นไปขายบนห้างได้โดยไม่อายใคร ซึ่งส่วนผสมและวิธีการทำสูตรน้ำพริกมีดังต่อไปนี้
ส่วนผสมน้ำพริกลงเรือ หมูหวาน น้ำพริกต่างๆ
กระเทียมหั่นหยาบ 1/3 ถ้วย
กะปิ ½ ถ้วย
พริกขี้หนูสวน 20-23 เม็ด
มะดันซอยหยาบ 5-6 ลูก
กุ้งแห้งป่น ½ ถ้วย
น้ำมะนาว 2-3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ ½ ช้อน
น้ำมันพืช 2-3 ช้อนโต๊ะ
เครื่องเคียง เช่น หมูหวาน ปลาดุกฟู และไข่เค็ม
ผักสดต่างๆ


วิธีสูตรน้ำพริกลงเรือ
1. โขลกกระเทียมกับกะปิจนละเอียด ใส่พริกขี้หนูลงโขลก ตามด้วยมะดัน จากนั้นใส่น้ำมะนาวลงไปผสมให้เข้ากัน พักไว้
2. ผัดส่วนผสมที่เตรียมไว้ในข้อแรกกับน้ำมันพอมีกลิ่นหอม ใส่กุ้งแห้งลงผัดพอเข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำตาลปีบ ชิมรสตาม ชอบ
3. ตักใส่ถ้วย รับประทานกับหมูหวานปลาดุกฟู ไข่เค็ม และผักสดต่าง ๆตาม ชอบ

ส่วนผสมสำหรับทำหมูหวานสำหรับรับประทานกับสูตรน้ำพริกลงเรือ
เนื้อหมูหั่นเป็นชิ้นบาง 500 กรัม
รากผักชีหั่นหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมหั่นหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยเม็ด 2 ช้อนชา
ซีอิ๊วขาว ½ ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปิ๊บ 1/3 ถ้วย
น้ำปลา ¼ ถ้วย
น้ำมันพืช 2-3 ช้อนโต๊ะ
หอมเล็กเจียว ¼ ถ้วย

วิธีทำหมูหวาน
1.โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทย เข้าด้วยกันจนละเอียด พักไว้
2.ผัดเครื่องที่โขลกไว้ ลงผัดกับน้ำมันจนมีกลิ่นหอม ใส่เนื้อหมูผัดพอสุก
3.ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ผัดให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบแล้วเคี่ยว พอน้ำเริ่มงวดจึงใส่หอมเล็กเจียวลงไป ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง เสริ์ฟพร้อมน้ำพริก




9/13/2554

น้ำพริกเห็ดฟาง

น้ำพริกเห็ดฟาง
น้ำพริกสูตรนี้จะนำเห็ดฟางมาเป็นส่วนผสม มีส่วนผสมและวิธีทำดังนี้

ส่วนผสมน้ำพริกเห็ดฟาง
พริกหนุ่ม 5 เม็ด
หอมแดง 5 หัว
เห็ดฟางดอกตูม 10 ดอก
พริกขี้หนูสีแดงเม็ดใหญดั่ว 7 เม็ด
กระเทียมไทยกลีบเล็กคั่ว 9 กลีบ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ+1 ช้อนชา
น้ำมะนาว 2 ½ ช้อนชา
น้ำปลาร้าต้มสุก 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำต้มสุก 2 ช้อนโต๊ะ
ต้นหอมซอยสำหรับตกแต่ง
ผักต้มและนึ่งมี กะหล่ำปลี ยอดมะระหวาน ดอกแค ฟักทองนึ่ง ฯลฯ

วิธีทำน้ำพริกเห็ดฟาง
1. เสียบพริกหนุ่ม หอมแดง เห็ดฟาง ด้วยไม้ลูกชิ้นแล้วนำไปอย่างบนเตาถ่านด้วยไฟกลางค่อนข้างอ่อน
ให้สุกหอมและเปลือกไหม้ ลอกเปลือกที่ไหม้ออกเตรียม ไว้
2. โขลกพริกขี้หนูสีแดงเม็ดใหญ่คั่ว พริกหนุ่ม หอมแดง และเห็ดฟางที่ย่าง กับกระเทียมคั่ว เข้าด้วยกันพอหยาบ ใส่น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำปลาร้า โขลกจนเข้ากันดี ใส่น้ำต้มสุก โขลกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสให้เค็มนำ เปรี้ยวเล็กน้อย และเผ็ด
3. ตักน้ำพริกเห็ดฟางใส่ถ้วย ตกแต่งด้วยต้นหอมซอย รับประทานกับผักต้มและผักนึ่ง


9/10/2554

น้ำพริกเผากุ้งแม่น้ำ

น้ำพริกเผากุ้งแม่น้ำ
น้ำพริกเผากุ้งแม่น้ำนั้น การนำกุ้งแม่น้ำมาใช้อาจจะแพงเกินไป ก็สามารถเปลี่ยนมาใช้กุ้งก้ามกรามได้ รสชาติเนื้อกุ้งใกล้เคียงกันมาก เพียงแต่มันกุ้งจะน้อยยกว่ากุ้งแม่น้ำเท่านั้น เลือกกุ้งก้ามกรามสด เปลือกมีสีฟ้าใส ไม่ขุ่นขาว ตัวใหญ่หัวเล็ก เนื้อกุ้งจะมาก และเลือกกุ้งที่ไม่มีไข่นอกตัว เพราะกุ้งที่มีไข่เนื้อจะน้อยและแข็ง

เครื่องปรุงและส่วนผสมน้ำพริกเผากุ้งแม่น้ำ
พริกขี้หนูแห้ง 20 กรัม
พริกชี้ฟ้าแห้ง 30 กรัม
หอมแดง 100 กรัม
กระเทียมไทย 100 กรัม
กุ้งก้ามกราม 300 กรัม
น้ำมันพืช 1/4 ถ้วย
กุ้งแห้งป่น 50 กรัม
น้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วย+2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา
น้ำมะขามเปียก ½ ถ้วย+2 ช้อนโต๊ะ
พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นเส้นสำหรับตกแต่ง
ขนมปังแซนด์วิชสำหรับจัดเสิร์ฟ

วิธีทำน้ำพริกเผากุ้งแม่น้ำ
1. เผาพริกแห้ง หอมแดง กระเทียม ทีละอย่างบนเตาถ่านด้วยไฟกลางค่อนข้างอบอุ่นให้สุกหอมและเปลือกไหม้ ลอกเปลือกที่ไหม้ของหอมแดงและกระเทียมออก เตรียมไว้
2. ล้างกุ้ง เด็ดหัวแยกมันกุ้งใส่ถ้วย ตัวกุ้งแกะเปลือกเด็ดหางทิ้ง หั่นเนื้อกุ้งเป็นชิ้น ใส่ถ้วย เตรียมไว้
3. ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางให้ร้อน ใส่เนื้อกุ้งลงทอดให้สุกเหลืองเปิดไฟ ตักขึ้นพักให้ละเด็ดน้ำมัน
4. บดหรือปั่นพริกแห้ง หอมแดง กระเทียม ที่เผา เข้าด้วยกันให้ละเอียด ใส่เนื้อกุ้งทอดและกุ้งแห้ง บดหรือปั่นอีกครั้งให้ละเอียดเข้ากันดี
5. ตักน้ำมันในกระทะทอดกุ้งให้เหลือประมาณ 1/4 ถ้วยเปิดไฟกลางให้ร้อน ใส่มันกุ้ง น้ำพริกเผาที่บดหรือปั่นลงผัดให้หอม ลดเป็นไฟอ่อน ปรุงรสด้วยน้ำตาลน้ำปลา และน้ำมะขามเปียก ผัดให้เข้ากัน ชิมรสให้
เปรี้ยว เค็ม หวาน ปิดไฟ (เมื่อเย็นตักใส่ขวดโหลปิดฝาให้สนิท)
6. ตักน้ำพริกเผากุ้งแม่น้ำใส่ถ้วย ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นเส้น รับประทานกับขนมปังแซนด์วิช


9/01/2554

สูตรน้ำพริกเผากากหมู

สูตรน้ำพริกเผากากหมู
น้ำพริกสูตรนี้จะนำกากหมูมาเป็นตัวเอก โดยกากหมูนั้นให้ใช้ที่เจียวใหม่ๆ จะมีกลิ่นหอมและกรอบ เมื่อนำมาผัดกับน้ำพริกเผา ปรุงรสเปรี้ยวเค็มหวาน จะช่วยเสริมให้มันหอมอร่อยขึ้น มันหมูใช้มันแข็ง เนื้อสีขาว สดใหม่ สะอาดไม่มีกลิ่น ล้างแล้วแช่เย็นทั้งชิ้นพอให้แข็ง จะช่วยให้หั่นง่าย เวลาเจียวกากหมู ให้ใส่น้ำลงไปพร้อมมันหมูด้วยเล็กน้อย น้ำจะช่วยให้น้ำมันร้อนเร็วขึ้น้น น้ำมันหมูออกมามาก และกากหมูเหลืองกรอบน่ากิน

ส่วนผสมของสูตรน้ำพริกเผากากหมู
พริกชี้ฟ้าแห้ง 10 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 30 เม็ด
หอมแดง 5 หัว
กระเทียมไทย 2 หัว
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
มันหมูหั่นชิ้นเล็ก 600 กรัม
หอมแดงซอย 1 /4 ถ้วย
น้าตาลปี๊บ 1/4 ถ้วย
น้ำปลา 1/4 ถ้วย+1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 1/2 ถ้วย
ผักสดมี ถั่วฝักยาว หัวปลี ใบบัวบก สายบัว เป็นต้น

1. เสียบพริกชี้ฟ้าแห้งและพริกขี้หนูแห้งด้วยไม้ลูกชิ้นนำไปย่างบนเตาถ่านด้วยไฟอ่อนให้กรอบ เตรียมไว้
จากนั้นเผาหอมแดงและกระเทียมบนเตาถ่านด้วยไฟกลาง ให้สุกหอมและเปลือกไหม้ลอกเปลือกที่ไหม้ออก เตรียมไว้
2. โขลกพริกชี้ฟ้าแห้งและพริกขี้หนูแห้งย่างเข้าด้วยกันให้ละเอียด ใส่หอมแดงและกระเทียมเผา โขลก
ต่อจนละเอียด ใส่กะปิ โขลกต่อจนเข้ากัน พักไว้
3. ใส่มันหมูลงในกระทะ เปิดไฟกลางค่อนข้างอ่อนเจียวจนน้ำมันในมันหมูออกมาและกากหมูเหลืองกรอบ ตักกากหมูขึ้นพักไว้ ตักน้ำมันหมูในกระทะออกให้เหลือ 1/4 ถ้วย ใส่หอมแดงลงเจียวจนเหลืองหอม ใส่น้ำพริกเผาที่โขลก ผัดจนหอม ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา แล้วน้ำมะขามเปียก ชิมรสให้เปรี้ยวเค็มหวาน ใส่กากหมูเจียว (แบ่งไว้โรยหน้าเล็กน้อย) จัดให้เข้ากัน ปิดไฟ (เมื่อเย็นตักใส่ขวดโหลปิดฝาให้ลนิท)
4. ตักใส่ถ้วย โรยกากหมูเจียวที่แบ่งไว้ รับประทานกับผักสด


8/29/2554

วิธีทำน้ำพริกคั่วภูเก็ต

วิธีทำน้ำพริกคั่วภูเก็ต
น้ำพริกคั่วภูเก็ต นั้นจะมีพริกขี้หนูแห้งเป็นตัวชูรสที่สำคัญสำหรับวิธีทำน้ำพริกนี้ การเลือกซื้อพริกขี้หนูแห้ง สีส้มแดง เลือกใช้กุ้งแห้งอย่างดี น้ำมาล้างตากแดดให้แห้งสนิทอีกครั้ง น้ำพริกจะเก็บได้นานโดยไม่ขึ้นราและไม่ต้องใส่สารกันบูด

ส่วนผสมและเครื่องปรุงของวิธีทำน้ำพริกคั่วภูเก็ต
กุ้งแห้ง 50 กรัม
พริกขี้หนูแห้ง 40 เม็ด
หอมแดงหั่น 50 กรัม
กระเทียมไทยหั่น 50 กรัม
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 1/4 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
เกลือสมุทร 1 /2 ช้อนโต๊ะ
ผักสดมี ถั่วฝักยาว แตงกวา ดอกขจร
มะเขือชนิดต่างๆ ฯลฯ

1. ล้างกุ้งแห้ง ใล่ตะแกรงผึ่งให้แห้ง นำมาโขลกให้ละเอียด เตรียมไว้
2. เด็ดก้านพริกขี้หนูแห้งออก ใส่ถาดตากแดดให้แห้งนำมาโขลกให้ละเอียด เตรียมไว้
3. โขลกหอมแดง กระเทียม กะปิ เข้าด้วยกันให้ละเอียด แล้วนำไปผัดในกระทะน้ำมันด้วยไฟอ่อนให้หอม ใส่พริกป่นและกุ้งแห้งป่น ผัดคั่วนานจนแห้ง ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาล และเกลือ
ผัดต่อจนน้ำพริกแห้ง ปิดไฟ (เมื่อเย็นตักใส่ขวดโหลปิดฝาให้สนิท แช่ในตู้เย็นช่องธรรมดา)
4. ตักใส่ถ้วย รับประทานกับผักสด


8/26/2554

สูตรน้ำพริกเคยคั่ว

สูตรน้ำพริกเคยคั่ว
เคยคั่วเป็นน้ำพริกสูตรทางภาคใต้ มีส่วนผสมและวิธีการทำดังนี้

ส่วนผสมน้ำพริกแกงของสูตรน้ำพริกเคยคั่ว
พริกขี้หนูแห้งแช่น้ำ 30 เม็ด
หอมเล็กซอย 3 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมหั่นหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ
ข่าแก่หั่นละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
ตะไคร้ซอย 2-3 ต้น
ขมิ้นชัน หั่นท่อนยาว 2 ซม. 1 ชิ้น
พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
-โขลกส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันจนละเอียด จะได้น้ำพริกแกงประมาณ 1/3 ถ้วย

ส่วนผสมเคยคั่ว
เคยหรือกะปิ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
กะทิ ¾ ถ้วย
ใบมะกรูดซอย 3-4 ใบ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
น้ำพริกแกงที่เตรียมไว้
ผักสดสำหรับกินแนมกับน้ำพริก


วิธีทำสูตรน้ำพริกเคยคั่ว
1. ใส่กะทิลงในหม้อ ตั้งไฟกลาง พอเดือดใส่น้ำพริกแกงเเละเคยลงไป คนให้ละลาย
2. ปรุงรสด้วยน้ำตาล เคี่ยวจนกะทิแตกมันและข้น ใส่ใบมะกรูดลงไป ผัดให้เข้ากัน
ตักเคยคั่วใส่ถ้วย รับประทานกับผักสดต่าง ๆตามชอบ


8/22/2554

น้ำพริกมะขามกุ้งสด

วิธีทำน้ำพริกมะขามกุ้งสด
น้ำพริกมะขามสูตรนี้สามารถเปลี่ยนจากเนื้อกุ้งสับมาเป็นหมูสับได้ตามชอบ และสามารถใช้มะดันแทนมะขามสดก็จะได้รสชาติที่อร่อยกลมกล่อมเช่นกัน







ส่วนผสมน้ำพริกมะขามกุ้งสด
มะขามสดขูดผิวออกหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 100 กรัม
เนื้อกุ้งสับ 150 กรัม
กุ้งสดลวก 150 กรัม
กระเทียมหั่นหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
กะปิเผา 3 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด
น้ำตาลปี๊บ 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนชา
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
ผักสดต่างๆ สำหรับกินแนม

1. โขลกกระเทียมกับกะปิพอละเอียดใส่มะขามสดลงไปโขลกให้ละเอียดอีกครั้ง ตามด้วยพริกขี้หนูสวนบุบพอแตก
2. ปรุงรสด้วยน้ำตาลปีบและน้ำปลา คนผสมให้เข้ากัน
3. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ ตั้งไฟพอร้อนนำกุ้งสับลงผัดพอสุก จากนั้นใส่น้ำพริกที่เตรียมไว้ลงไปจัดให้แห้ง ตักขึ้นใส่ถ้วยโรยหน้าด้วยกุ้งลวกสุก รับประทานกับผักสดต่าง ๆ ตามชอบ


8/17/2554

น้ำพริกขี้กา

น้ำพริกขี้กา
น้ำพริกนี้นิยมปรุงรสเปรี้ยวเค็มเผ็ด กินแนมกับไข่ต้มยางมะตูม

เครื่องปรุงน้ำพริกขี้กา
พริกหนุ่ม 7 เม็ด
หอมแดง 14 หัว
พริกขี้หนูสีแดงเม็ดใหญ่เด็ดขั้วคั่ว 19 เม็ด
กระเทียมไทยกลีบเล็กคั่ว 15 กลีบ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ+2 ช้อนชา
น้ำตาลปี๊บ 1/4 ช้อนชา
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ+1 ช้อนชา
น้ำต้มสุก 1/4 ถ้วย
เกลือสมุทร 1/4 ช้อนชา
ใบผักชีสำหรับตกแต่ง
ผักต้มมี กะหล่ำปลี ผักกวางตุ้ง
ยอดดอกแค ถั่วพู ฯลฯ
เครื่องเคียงมี ไข่ต้มยางมะตูม

วิธีทำน้ำพริกขี้กา
1.เสียบพริกหนุ่ม หอมแดง ด้วยไม้ลูกชิ้น แล้วนำไปย่างบนเตาถ่านด้วยไฟกลางค่อนข้างอ่อนให้สุกหอม และเปลือกไหม้ ลอกเปลือกที่ไหม้ออก เตรียมไว้
2.โขลกพริกขี้หนูสีแดงคั่ว พริกหนุ่มกับหอมแดงย่างและกระเทียมคั่ว เข้าด้วยกันพอหยาบ ใส่น้ำปลา น้ำตาล และน้ำมะนาว โขลกให้เข้ากัน ใส่น้ำต้มสุก เกลือ โขลกเคล้าเบาๆ ให้เข้ากัน ชิมรสให้เปรี้ยว เผ็ด เค็ม
3.ตักน้ำพริกขี้กาใส่ถ้วย ตกแต่งด้วยใบผักชี รับประทานกับผักต้มและเครื่องเคียง

วิธีทำไข่ยางมะตูม คือ ต้มไข่พร้อมด้วยน้ำด้วยไฟกลางจนเดือด จับเวลาหลังน้ำเดือด 4-5 นาที ตักขึ้นใส่อ่างน้ำเย็น ปอกเปลือก รับประทานกับน้ำพริกขี้กา

3/29/2554

น้ำพริกปลาดุกปลาร้า

น้ำพริกปลาดุกปลาร้า
น้ำพริกปลาดุกปลาร้าสูตรนี้เลือกใช้ปลาดุกนาตัวเล็ก สังเกตหนังปลามีสีเทา เนื้อนุ่มมัน ไม่มีกลิ่นคาว

ส่วนผสมของน้ำพริกปลาดุกปลาร้า
พริกหนุ่ม 7 เม็ด
พริกขี้หนูสีแดงเม็ดใหญ่ 7 เม็ด
หอมแดง 5 หัว
กระเทียมกลีบใหญ่ 5 กลีบ
เนื้อปลาดุกต้มปลาร้า 1 ตัว
น้ำปลา 2 ช้อนชา
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำต้มปลาดุกปลาร้า 1/4 ถ้วย
ส่วนผสมของปลาดุกต้มปลาร้า
ปลาดุก (350 กรัม) 1 ดัว
น้ำปลาร้าต้มสุก 2 1/2 ถ้วย
ข่าแก่หั่นท่อนขนาด 1 นิ้ว ทุบ 2 ชิ้น
ตะไคร้หั่นท่อนขนาด 1 /2 นิ้ว ทุบ 1 ต้น
กระชายทุบ 2 ราก
หอมแดงทุบ 3 หัว
ใบมะกูรดฉีก 3 ใบ
พริกขี้หนูบุบ 5-6 เม็ด

1. ทำปลาดุกต้มปลาร้าโดยล้างปลาดุก ผ่าท้องเอาไส้และดีออก ล้างด้วยน้ำปูนแดงหรือปูนขาวจนหมดเมือก ล้างอีกครั้ง หั่นเป็นแว่นหนาประมาณ 2ซม. ล้างแล้วใส่ตะแกรงพักไว้ให้ละเด็ดน้ำ ต้มน้ำปลาร้าในหม้อด้วยไฟกลางจนเดือด ใส่ข่าตะไคร้ กระชาย หอมแดง ใบมะกรูด และพริกขี้หนูต้มพอเดือด ใส่ปลาดุก ต้มจนปลาสุก ตักใส่จานพักไว้ให้เย็น แกะเอาแต่เนื้อ (ไม่เอาหนัง) ใส่ถ้วยพักไว้
2. เสียบพริกหนุ่ม พริกขี้หนูสีแดงเม็ดใหญ่ หอมแดงและกระเทียม ด้วยไม้ลูกชิ้น แล้วนำไปย่างบนเตาถ่านด้วยไฟกลางค่อนข้างอบอุ่นให้ลุกหอม และเปลือกไหม้ ลอกเปลือกที่ไหม้ออก เตรียมไว้
3. โขลกพริกหนุ่ม พริกขี้หนูสีแดงเม็ดใหญ่ หอมแดงและกระเทียมที่ย่าง เข้าด้วยกันพอหยาบๆ ใส่เนื้อปลาดุกต้ม โขลกให้เข้ากัน ใส่น้ำปลา น้ำมะนาวและน้ำต้มปลาดุกปลาร้า คนให้เข้ากัน ชิมรสให้เค็มกลมกล่อมหวานเนื้อปลาดุก หอมกลิ่นปลาร้า
4. ตักใส่ถ้วย ตกแต่งด้วยต้นหอมซอย รับประทานกับผักต้ม



3/17/2554

น้ำพริกนรกปลาสลิด

น้ำพริกนรกปลาสลิด
น้ำพริกนรกปลาสลิด ต้องใช้ปลาสลิดแห้งๆ และต้องเป็นปลาสลิดสองแดด ครีบต้องกาง หางต้องแผ่ แต่ถ้าหางถูกฉีกจะเป็นปลาแช่แข็ง ซึ่งผิวจะเต่ง ตัวจะหนัก เวลาชั่งได้จำนวนตัวน้อย ปลาสลิดตัวผู้ ลำตัวยาวเรียวสีเข้ม ตัวเมียตัวสั้นป้อม มีน้ำหนักมากกว่า สีจางกว่า ปลาสลิดตัวผู้จะอร่อยกว่าตัวเมีย เพราะไม่ค่อยมีมัน รสจืดกว่าตัวเมีย เพราะหนังปลาสลิดตัวผู้หนากว่าตัวเมีย เกลือซึมเข้าได้ยาก

ส่วนผสมของน้ำพริกนรกปลาสลิด
ปลาสลิด (ตัวละ 55-60 กรัม) 7 ตัว
น้ำมันพืช 2 ถ้วย
พริกแห้งเม็ดใหญ่คั่วโขลกละเอียด 10 เม็ด
พริกขี้หนูแห้งคั่วโขลกละเอียด 20 เม็ด
หอมแดงซอยคั่ว 10 หัว
กระเทียมไทยแกะเปลือกคั่ว 1/4 ถ้วย
เนื้อมะขามเปียกสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

1.นึ่งปลาลลิดพอสุก พักให้เย็น แล่เอาเนื้อปลาทั้งสองด้าน วางผึ่งบนตะแกรงสักครูให้หนังปลาแห้ง
แกะเอาแต่เนื้อปลาสลิดแล้วสับจะได้ปริมาณ 2 ถ้วยผึ่งเนื้อปลาพอหมาด จากนั้นใส่ลงถอดในกระทะ
น้ำมันร้อนด้วยไฟกลางจนฟูกรอบ (อย่าทอดนานเนื้อปลาจะมีรสขม เพราะต้องนำไปคั่วอีกครั้งกับ
น้ำพริก) ตักขึ้น เตรียมไว้
2.โขลกพริกแห้งทั้งสองชนิดที่โขลกไว้กับหอมเเดงและกระเทียมดั่วเข้าด้วยกันให้ละเอียด ใส่เนื้อ
มะขามเปียก โขลกให้เข้ากันดี แล้วนำไปคั่วในกระทะที่ไม่ใส่น้ำมันด้วยไฟอ่อนมากๆสักครู่ แล้วใส่
เนื้อปลาลลิดทอด ผัดยีให้เนื้อปลาและน้ำพริกเข้ากันดี ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาล ผัดพอทั่วและแห้ง
ปิดไฟ ตักใส่อ่างผสม พักไว้ให้เย็น แล้วนำน้ำพริกปลาสลิดไปปั่นอีกครั้งเพื่อให้เนื้อปลาสลิดละเอียด
และฟูยิ่งขึ้น (เมื่อเย็นตักใส่ขวดโหลปิดฝาให้สนิท)
3. ตักน้ำพริกนรกปลาสลิดใส่ถ้วย รับประทานกับผักลด


น้ำพริกปลาป่น

น้ำพริกปลาป่น
น้ำพริกปลาป่นนั้น ใช้เนื้อปลากรอบเป็นส่วนผสมหลัก และปลากรอบก็มีหลายชนิดที่นิยมกัน เช่น ปลาเนื้ออ่อน ปลาสวาย ปลาช่อนทะเล ปลาช่อนเป็นต้น

ส่วนผสมของน้ำพริกปลาป่น
ปลากรอบ (ตัวละ200 กรัม) 2 ตัว
พริกขี้หนูแห้ง 1/2 ถ้วย
เกลือสมุทร 1/2 ช้อนชา
ผักสดมี แตงกวา ถั่วฝักยาว
ผักกาดขาว มะเขือชนิดต่างๆ ฯลฯ

1.ย่างปลากรอบด้วยไฟอ่อนอีกครั้งให้หอม แกะเอาแต่เนื้อ ตวงให้ได้ 1 ½ ถ้วย โขลกให้ละเอียดพักไว้
2.คั่วพริกแห้ง ไฟอ่อนให้เม็ดพริกพองกรอบ ตักขึ้นพักไว้ให้เย็นแล้วจึงโขลกให้ละเอียดเตรียมไว้
3.ผสมปลาป่นกับเกลือและพริกป่นเข้าด้วยกัน ตักใส่ขวดโหลปิดฝาให้สนิท
4.การรับประทานน้ำพริกปลาป่นนั้นรับประทานได้ทั้งแบบแห้งและแบบผสมน้ำต้มสุกโดยตักน้ำพริกปลาป่นใส่ถ้วย ใส่น้ำต้มสุกเล็กน้อย ปรุงรสด้วยน้ำมะนาวและน้ำปลาตามชอบ คนให้เข้ากัน รับประทานกับผักสด เช่น แตงกวา ถั่วฝักยาว มะเขือ เป็นต้น


3/16/2554

น้ำพริกไตปลาไข่ลูกเขย

น้ำพริกไตปลาไข่ลูกเขย
น้ำพริกไตปลาไข่ลูกเขย เมื่อรับประทานคู่กัน สามารถช่วยแก้เผ็ดได้ดี เพราะน้ำพริกไตปลาออกรสเค็มและเผ็ด ส่วนไข่ลูกเขยมีรสเปรี้ยวหวานเค็ม

ส่วนผสมของน้ำพริกไตปลา
ไตปลาดอง (เลือกที่ทำจากปลาทู ปลากระบอก และปลากะพง เลือกสีคล้ำออกแดง) 1/2 ถ้วย
น้ำซุปไก่หรือน้ำ 1/2 ถ้วย
ปลาดุกย่างแกะเนื้อ 1 ตัว
ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ
น้ำมะขามเปียล 3/4 ถ้วย
น้ำตาลปี้บ 1 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมของไข่ลูกเขย
ไข่เป็ด 4 ฟอง
น้ำมันพืช 1 ถ้วย
น้ำตาลปี๊บ 2/4 ถ้วย
น้ำมะขามเปียก 3/4 ถ้วย
น้ำปลา 1/4 ถ้วย
หอมแดงเจียว 1/4 ถ้วย

เครื่องแกงน้ำพริกไตปลา
พริกขี้หนูแห้ง 1/4 ถ้วย
ข่าแก่หั่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
ตะไคร้ซอย 2 ต้น
ผิวมะกรูดหั่นละเอียด 1/t ช้อนชา
พริกไทยดำเม็ด 1 ช้อนชา
กระเทียมไทยแกะเปลือก 1/4 ถ้วย
หอมแดงหั่น 5 หัว
กระชายขูดเปลือกซอย 3 ราก
ขมิ้นสดหั่น 1 1/2 ช้อนโต๊ะ กะปิ 2 ช้อนชา

1.ทำไข่ลูกเขยโดยต้มไข่เป็ด น้ำด้วยไฟกลาง จับเวลาตั้งแต่น้ำเดือดนาน 6-7 นาที ตักขึ้นใส่อ่างน้ำเย็น แกะเปลือกไข่ไข่ออก ใส่ไข่ลงทอดในกระทะน้ำมันด้วยไฟกลางจนสุกเหลืองทั่ว ตักใส่ชาม ตักน้ำมันออกจนหมด ใส่น้ำตาล ใส่น้ำมะขามเปียก และน้ำปลา เคี่ยวให้น้ำตาลละลาย ชิมรสให้เปรี้ยวเค็มหวาน ปิดไฟ ผ่าไข่ครึ่งฟองใส่ลงไป โรยหอมแดงเจียว
2. ทำน้ำพริกแกงโดยโขลกเครื่องแกงทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย พักไว้
3. เคี่ยวไตปลากับน้ำซุปไก่หรือน้ำในหม้อด้วยไฟกลางจนเดือด ยกลงกรองเอากากออก ใส่น้ำไตปลาที่เคี่ยวลงในหม้อ ใส่น้ำพริกแกงที่โขลก คนให้ทั่ว เคี่ยวจนขึ้นและมีกลิ่นหอม ใส่เนื้อปลาดุกย่าง คนพอทั่ว ฉีกใบมะกรูดใส่ ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียกและน้ำตาล ชิมรสให้เค็มเปรี้ยวกลมกล่อม ปิดไฟ
4. ตักน้ำพริกไตปลาใส่ถ้วย เสิร์ฟกับผักสด ผักลวกและผักต้ม และไข่ลูกเขย

3/09/2554

หลนปลาอินทรีเค็มเนื้อปู

หลนปลาอินทรีเค็มเนื้อปู
สูตรน้ำพริกที่จะเสนอในวันนี้ คือ หลน ซึ่งจะนำเสนอหลนปลาอินทรีเค็มเนื้อปู ซึ่งหลนปลาเค็มนั้นเป็นอาหารไทยที่มีรสเข้มข้นกลมกล่อม ทั้งเปรี้ยว หวาน มันกะทิ หลนที่ดีต้องข้น จิ้มผักติด สูตรนี้ได้เพิ่มความแปลกใหม่เข้าไปนิดหน่อย คือเพิ่มเนื้อปู ปูที่ใช้ต้องเนื้อไม่แหลก ไม่มีกลิ่นเหม็น การใส่ให้ใส่หลังจากปรุงรสแล้วเพื่อไม่ให้เนื้อปูเละ

ส่วนผสมของหลนปลาอินทรีเค็มเนื้อปู
หัวกะทิ 2 1/2 ถ้วย
ปลาอินทรีเค็มนึ่งแล้วยีให้ละเอียด 70 กรัม
เนื้อหมูสับ 100 กรัม
ตะไคร้ซอย 4 ต้น
น้ำตาลปี้บ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงซอย 1/2 ถ้วย
เนื้อปูนึ่งแกะ 3/4 ถ้วย
ใบมะกรูดซอย 2 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูสวน 9 เม็ด

วิธีทำหลนปลาอินทรีเค็มเนื้อปู
1. เคี่ยวหัวกะทิ 1 1/2 ถ้วยในกระทะด้วยไฟกลางจนเดือดและแตกมัน ใส่ปลาอินทรีเค็ม และเนื้อหมูสับ คนให้ทั่วและหมูสุก ใส่หัวกะทิที่เหลือ เคี่ยวให้เดือด ใส่ตะไคร้ ปรุงรสด้วยน้ำตาล และน้ำมะขามเปียก คนให้ทั่ว ชิมรสให้เปรี้ยวหวานเค็มกลมกล่อม ใส่หอมแดง เนี้อปูแกะ คนให้ทั่ว ใส่ใบมะกรูดซอย และพริกขี้หนูสวน ปิดไฟ
2. ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟหลนปลาอินทรีเค็มเนื้อปูกับผักสด เช่น ขมิ้นขาว แตงกวา ถั่วพู

3/02/2554

น้ำพริกระกำ

น้ำพริกระกำ

น้ำพริกระกำเป็นน้ำพริกที่มีรสชาติ เปรี้ยว เผ็ด เค็ม หวานเล็กน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบทานน้ำพริกรสเผ็ดจัด และทางภาคใต้ก็นิยมใช้รสเปรี้ยวจากระกำแทนมะนาว ซึ่งในน้ำพริกสูตรนี้ถ้าระกำไม่เปรี้ยวพอก็สามารถเติมมะนาวลงไปได้

ส่วนผสมของน้ำพริกระกำ
ระกำเปรี้ยว (ระกำเปรี้ยวเปลือกมีสีส้มไม่ออกสีแดงคล้ำแบบระกำหวาน) 8 เม็ด
พริกขี้หนูสวน 2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมไทยแกะเปลือก 15 กลีบ
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 1 ช้อนชา

วิธีทำน้ำพริกระกำ
1. ล้างระกำ (มีเคล็ดลับนิดหน่อยในการปอกเปลือกคือ การแกะเปลือกระกำควรใช้มือหนึ่งจับด้านขั้วผล แล้วใช้หัวแม่มือและนิ้วชี้บีบที่ปลายผลเมื่อยุบตามแรงบีบก็ค่อยๆ บิดเปลือกตรงก้นผล แล้วดึงเปลือกวนออกเป็นเกลียว เปลือกจะหลุดล่อนออกโดยไม่ฉีกขาดและหนามไม่แทงมือ)ลอกเยื่อสีขาวออก หั่นเป็นชิ้น (แบ่งไว้
โรยหน้าเล็กน้อย) ใล่ถ้วย เตรียมไว้
2. โขลกพริกขี้หนู กระเทียม และกะปิ เข้าด้วยกันพอหยาบ ใส่ระกำ โขลกเข้าด้วยกัน ใส่น้ำตาล(ถ้าระกำเปรี้ยวไม่เปรี้ยวมากให้ใส่น้ำมะนาว) คนให้เข้ากัน ชิมรสให้ เปรี้ยว เผ็ด เค็ม และหวานเล็กน้อย
3. ตักใส่ถ้วย โรยระกำที่แบ่งไว้ ก็จะได้น้ำพริกระกำรสจัดจ้าน ไว้รับประทานกับผักสด ผักต้ม และปลาทู

ระกำเปรี้ยว

2/23/2554

น้ำพริกคั่วแห้ง

น้ำพริกคั่วแห้ง
น้ำพริกคั่วแห้งเป็นน้ำพริกที่เครื่องน้ำพริกทั้งหมดต้องทอดต้องเจียวให้เหลืองกรอบ วิธีการคือ ใส่ลงทอดพร้อมกับน้ำมันตอนที่ยังไม่ร้อน อย่างพริกแห้งให้ทอดพอพองเท่านั้น ส่วนหอมแดงกับกระเทียมให้เจียวพอมีสีเหลืองอ่อนก็ตักขึ้น ความร้อนที่เหลืออยู่ในน้ำมันจะทำให้เหลืองพอดี นอกจากนี้น้ำปรุงรสน้ำพริกต้องเคี่ยวให้ข้นเหนียวได้ที่แล้ว ใส่เครื่องน้ำพริกที่ทอดลงคั่ว น้ำพริกจึงจะกรอบทนกรอบนาน

ส่วนผสมของน้ำพริกคั่วแห้ง
น้ำมันพืช 1 ถ้วย
กุ้งแห้ง 1 ถ้วย
เนื้อปลากรอบ (ปลาเนื้ออ่อนรมควัน) 1/2 ถ้วย
พริกแห้งเม็ดใหญ่หั่นชิ้นหนา 0.5 ซม. 5 เม็ด
กระเทียมไทยซอย 1/2 ถ้วย
หอมแดงซอย 1/2 ถ้วย
น้ำตาลปี๊บ 1/4 ถ้วย
น้ำปลา 3 ช้อน
ผักสดมี แตงกวา ถั่วฝักยาว กะหล่ำปลี
ผักกาดขาว มะเขือชนิดต่างๆ ฯลฯ
เครื่องเคียงมี หมูทอดและกุ้งต้มเค็ม

1.ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางให้ร้อน ใส่กุ้งแห้งลงทอดพอกรอบ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน ใส่เนื้อปลากรอบลงทอดต่อให้เหลืองกรอบ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน ใส่พริกแห้งลงทอดพอหอม ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน ใส่กระเทียมและหอมแดงลงเจียวให้เหลืองทีละอย่าง ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน

2. เคี่ยวน้ำตาลกับน้ำปลาในกระทะด้วยไฟอ่อนพอเหนียว ใส่เครื่องปรุงน้ำพริกที่ทอด ผัดคลุกเคล้าพอทั่ว (เมื่อเย็นตักใส่ขวดโหลปิดฝาให้สนิท)

3.ตักใส่ถ้วย รับประทานกับผักสดและเครื่องเคียง



2/19/2554

น้ำพริกมะอึก

มะอึก

มะอึก คือมะเขือชนิดหนึ่งที่บางคนอาจจะยังไม่รู้จัก มีขนอ่อนๆ รอบผล เปลือกบาง มีเมล็ดจำนวนมาก ผลสุกมีสีเหลืองอมส้ม มีรสเปรี้ยวและกลิ่นหอม นิยมใส่ในน้ำพริกต่างๆ ที่มีกะปิ รสมะอึกจะช่วยดับกลิ่นคาวและชูรสอร่อยของกะปิยิ่งขึ้น การเลือกมะอึกมาทำน้ำพริกมะอึกนั้นให้เลือกผลสุกกำลังดี จับดูแข็ง ไม่นิ่ม เปลือกเต่งตึง มีสีเหลืองทั่วทั้งผล

ส่วนผสมของน้ำพริกมะอึก
มะอึก 10 ลูก
กระเทียมไทยแกะเปลือก 9 กลีบ
กะปิ 2 ช้อนชา
พริกขี้หนูสวนสีเขียวและแดง 13 เม็ด
น้ำปลา 2 1/2 ช้อนชา
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา

1. ขูดขนมะอึกออกจนหมด ล้างให้สะอาด ผ่าซีกซอย ตามขวาง ใส่ถ้วย พักไว้
2. โขลกกระเทียมกับกะปิเข้าด้วยกันให้ละเอียด ใส่มะอึก พริกขี้หนู โขลกพอเม็ดพริกแตก ปรุงรสด้วย
น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาล ชิมรสให้เปรี้ยวหวาน เค็ม สามรสเท่าๆกัน และเผ็ดหอมพริกขี้หนู
3. ตักใส่ถ้วย รับประทานกับผักสด มี ผัดกาดขาว ถั่วฝักยาว แตงกวา มะเขือ เป็นต้น
น้้ำพริกมะอึก

2/15/2554

น้ำพริกกุ้งก้ามกราม

น้ำพริกกุ้งก้ามกราม
น้ำพริกสูตรนี้ใช้กุ้งก้ามกรามเป็นส่วนประกอบสำคัญ กุ้งก้ามกรามคือกุ้งน้ำจืดชนิดหนึ่ง มีหลายชื่อเรียกเช่น กุ้งหลวง กุ้งนาง กุ้งแม่น้ำ ลำตัวมีสีเขียวอมฟ้า ม่วง ก้ามมีหนามตะปุ่มตะป่ำ รสชาติอร่อย เนื้อแน่น นิยมนำมาประกอบอาหารหลายอย่างทั้งเผาหรือต้มยำ แต่วันนี้เราจะนำเสนอสูตรน้ำพริกโดยใช้กุ้งก้ามกรามเป็นส่วนประกอบหลักกันค่ะ



ส่วนผสมของน้ำพริกกุ้งก้ามกราม
กะปิ 2 ช้อนชา
กุ้งก้ามกราม (ตัวละ 100 กรัม) 3 ตัว
พริกชี้ฟ้าสีแดง 3 เม็ด
กระเทียมไทยแกะเปลือก 10 กลีบ
กุ้งแห้งป่น 2 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูสวนสีเขียวและแดง 15 เม็ด
น้ำตาลปีบ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 /2 ช้อนโต๊ะ
น้ำามะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
ไข่เค็มต้มสำหรับโรย
พริกขี้หนูสวนสีเขียวและแดงสำหรับตกแต่ง

1 ห่อกะปิด้วยใบตอง ปิ้งบนไฟกลางพอหอม เตรียมไว้
2. ล้างกุ้งให้สะอาด เผากุ้งบนเตาถ่านด้วยไฟแรงพอให้เนื้อกุ้งสะดุ้งไฟสุก (อย่าเผานานเนื้อกุ้งจะสุกแข็ง) แกะเปลือก ตักมันกุ้งตรงหัวกุ้งใส่ถ้วย แล้วหั่นเนื้อกุ้งเป็นชิ้นเล็กใส่ลงในถ้วยเดียวกัน เตรียมไว้
3. โขลกพริกชี้ฟ้าสีแดงกับกระเทียมเข้าด้วยกันให้ละเอียด ใส่กะปิและกุ้งแห้งป่น โขลกให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา และน้ำมะนาว คนให้เข้ากัน ชิมรสให้เปรี้ยว เค็ม หวาน หรือให้รสอย่างที่ชอบ
4. ตักใส่ถ้วย โรยไข่เค็มต้ม ตกแต่งด้วยพริกขี้หนูสวนสีเขียวและแดง รับประทานกับผักสด เช่น มะเขือเปราะ แตงกวา ถั่วฝักยาว หรือผักทอดและเครื่องเคียงเช่นปลาทูทอด ก็จะทำให้ได้น้ำพริกที่รับประทานแล้วมีรสชาติอร่อย กลมกล่อมยิ่งขึ้น

2/13/2554

น้ำพริกกุ้งเสียบ


น้ำพริกกุ้งเสียบนั้น เป็นการถนอมอาหารอย่างหนึ่ง ซึ่งกุ้งเสียบก็คือการนำกุ้งสดๆ มาเสียบไม้ย่างทั้งเปลือก รมควันจากกาบมะพร้าวจนได้กลิ่นหอมแต่ไม่ไหม้ การเลือกซื้อกุ้งเสียบต้องเลือกที่แห้งสนิท สีเป็นธรรมชาติ กุ้งเสียบนิยมนำมาใช้ทำเป็นน้ำพริกซึ่งนอกจากจะทำรับประทานในครอบครัวแล้ว ก็ยังขายเพิ่มรายได้ให้กับครัวเรือนและถือว่าเป็นการเพิ่มมูลค่าอย่าง
หนึ่งให้กับกุ้งเสียบอีกด้วย

ส่วนผสมของน้ำพริกกุ้งเสียบ
กุ้งเสียบ 1/2 ถ้วย
พริกขี้หนูสวน 20 เม็ด
หอมแดงซอย 1/4 ถ้วย
กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนชา
กุ้งเสียบและพริกขี้หนูสวนสำหรับตกแต่ง

วิธีทำน้ำพริกกุ้งเสียบ
1. คั่วกุ้งเสียบในกระทะด้วยไฟอ่อนให้กรอบและมีกลิ่นหอม ปิดไฟ ตักใส่ถ้วย เตรียมไว้
2. โขลกพริกขี้หนู หอมแดง และกะปิ เข้าด้วยกันใส่กุ้งเสียบ โขลกพอเข้ากัน (แต่กุ้งไม่แหลกมาก)
ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำตาล คนให้เข้ากัน ชิมรสให้มีสามรส
3. ตักใส่ถ้วย ตกแต่งด้วยกุ้งเสียบและพริกขี้หนูสวนรับประทานกับผักสดและผักต้มตามชอบ เช่น แตงกวา สะตอ ถั่วฝักยาว มะเขือ ข้าวโพดอ่อนต้ม กะหล่ำดอกต้ม เป็นต้น