สูตรน้ำพริกลงเรือ หมูหวาน

น้ำพริกลงเรือหมูหวานสูตรนี้ เป็นสูตรที่ เหมาะจะกินกับผักสดและเครื่องแนมต่างๆ เวลาเดินทางออกรสชาติได้ดีนักแล รสชาติ กลมกล่อม เปรี้ยว หวาน เค็ม เก็บไว้ได้นาน ไม่เสียง่ายๆ



ส่วนผสม
พริกขี้หนูสวนเขียว-แดง 20 เม็ด
หมูหวาน 1/4 ถ้วย
กุ้งแห้งโขลกละเอียค 1/2 ถ้วย
มะดันซอย 2 ลูก
ระกำฝานเอาแต่เนื้อ 2 ลูก
มะอึกหั่นบางๆ2 ลูก
กระเทียมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 2ช้อนโต๊ะ
กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 1/4 ถ้วย

หมู หวาน
เนื้อหมูติดมันหั่นชิ้นเล็กๆ 200 กรัม
หอมแดงสับ 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1/4 ถ้อย
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 1 /2 ช้อนโต๊ะ

ปลาดุกฟู
ปลาคุกย่าง 1 ตัว
น้ำมันพืชสำหรับทอด 3 ถ้วย

วิธีทำน้ำพริกลงเรือ หมูหวาน
1 ทำหมูหวานโดยเจียวหอมเเดงกับน้ำมันด้วยไฟกลางให้หอม ใส่น้ำตาล น้ำปลา และเนื้อหมู ลงไปผัดให้สุก จากนั้นลดไฟลง ให้อ่อนๆ เคี่ยวหมูต่อจนขึ้นเงาสวย



2. ทำปลาดุกฟูโดยย่างปลาดุก ด้วยไปกลางๆจนปลาสุก แกะเอาแต่เนื้อ ใส่ถาดผึ่งให้แห้งหมาดๆจากนั้นนำไปทอดจนเหลืองหอม แล้วตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน

3.ห่อกะปิด้วยใบตองแล้วนำไป ปิ้งบนไฟกลางพอ หอม นำมาโขลกกับกระเทียมให้ละเอียด ใส่มะดันซอย ระกำ มะอึก โขลกให้เข้ากัน จากนั้นใส่พริกขี้หนูลงไปบุบพอแตก แล้วปรุงรสด้วย น้ำมะนาว น้ำตาล



4.ตั้งกระทะส่น้ำมัลงไป ให้ร้อน ใส่เครื่องที่โขลกไว้แล้ว ลงไปผัดให้สุกเหลืองหอม ใส่หมูหวาน และกุ้งแห้งลงไปผัดให้ทั่ว จนแห้งปิดไฟ

5.ตักใส่ถ้วยหรือภาชนะ เก็บไว้กินได้นานๆ เวลากินให้โรยหน้าด้วยไข่เค็ม แต่งหน้าด้วยมะอึก กินกับผักสด ผักกาดขาว มะเขือต่างๆ เครื่องเคียงมีปลาดุกฟู ไข่เค็ม หมูหวานฯลฯ

น้ำพริกตาแดง

น้ำพริกตาแดงสามารถเก็บไว้ได้นาน จึงนิยมนำไปกินในทุ่งนา ไร่สวน หรือการเดินทางไกล เมื่อเก็บไว้นานมีลักษณะแห้ง เวลาจะรับประทานจะเอาน้ำใส่แล้วคนให้มีลักษณะเหนียวหรืออาจบีบเอาน้ำจากผลมะกอกเติมก็ได้ โดยทั่วไปการกินน้ำพริกแดงจะต้องมีผักนึ่งเช่นผักกาด กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก ถั่วผักยาว ถั่วพู มะเขือ อาจมีเนื้อแดดเดียวด้วยก็จะยิ่งอร่อย

เครื่องปรุง
พริกแห้งเม็ดโหญ่ปิ้งใฟใหักรอบ 15 เม็ด
หอมแดงเผา 7 หัว
กะปิดีเผา 2 ชัอนโต๊ะ
เนื้อมะป้ามเปียกสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
เนื้อปลาทูย่างแกะเอาแต่เนื้อ 2 ตัว

วิธี ปรุง
1.นำพริกแห้ง หอมแดงเผา กะปิตีเผา เนื้ัอปลาทูย่างใส่ครกโขลกให้ละเอียด
2.ใส่มะขามเปียกที่เตรียมไว้ โขลกผสมให้เข้ากันดี ตักโล่ถัวย ปรุงรสตาม ต้องการ รับประทานกับผักสด หรือรับประทานกับขัาวสวยร้อนๆ ก็อร่อย

น้ำพริกเจ้าพระยา

ชื่ออาจจะฟังดูแปลก ไม่แน่ใจว่ามีต้นกำเนิดมากจากที่ไหน แต่ฟังชื่อคงเกิดจากการนำเอามะเขือเจ้าพระยา มาเป้นส่วนผสม จึงเกิดเป็นชื่อเรียก น้ำพริกเจ้าพระยา

ส่วนผสมน้ำพริกเจ้าพระยา

มะเขึอเจ้าพระยา 10 ผล
เนื้อปลาทูสfย่าง 5 ตัว
พริกชี้ฟ้าเขียวแดงเผา 10 เม็ด
ทอมแดงเผา 10 หัว
หัวกระเทียมเผา 5 หัว
ปลาร้าตัมกรองเอาแต่น้ำ 1 ถ้วย
น้ำมะนาว น้ำปลา ตามสมควร

วิธีทำ
1.ต้มมะเขือเจ้าพระยาให้เละ โส่ครกโขลกกับเนื้อปลาทูย่าง พริกชี้ฟ้า เผา หอมแดงเผา หัวกระเทียมเผา โขลกให้เขัากันอย่างละเอียด

2.ตักใส่ถ้วย เติมน้ำปลารัาลงไป คลุกเคล้า ปรุงรสเพิ่ม น้ำปลาดี น้ำมะนาว ชิมรสตามตัองการ
รับประทานกับผักดิบ ผักสดหรือผักลวก เช่น ถั่วฝักยาว ถั่วพู ตันหอม ยอดกระถิน ยอดผักบุ้งนา ผักกระเฉค ผักแว่น ผักาลาว ผักชีฝรั่ง แตงกวา ยอดแคลวก ยอดมะระลวก หรือผักที่หาได้ตามรั้ว ในท้องถิ่น ทานกับข้าวสวยร้อนๆอร่อยอย่าบอกใคร

น้ำพริกมะขามเปียก

น้ำพริกมะขามเปียกนี้เป็นเมนูที่ใช้ส่วนประกอบไม่มาก สามารถทดลองทำได้ง่ายๆ รสชาติเปรี้ยว เผ็ด เค็ม
เหมาะสำหรับ กินแนมผักสด ผักลวกหลายชนิด

เครื่องปรุง
มะขามเปียกหั่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูสวน 15 เม็ด
กระเทียมแกะเปลือก 2 หัว
หอมแดง 2 หัว
กะปิดีห่อโบตองเผาไฟ 1 ช้อนโต๊ะ
มะเขือขื่นแคะเม็ดออกหั่นละเอียด 1 ผล
นัำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนชา

วิธีทำ

1.นำพริกขี้หนูสวน กระเทียม หอมแดง มะขามเปียก กะปิเผามาโขลกให้เขากันใส่มะเขือที่เตรียมไว้คลุกเคล้าใหัเขัากัน ตักออกใส่ถ้วย

2.ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ชิมรสตามความพอใจ รับประทานกับขัาวสวยรัอนๆ จิ้มกับผักสด เช่น ถั่วพู ยอดกระถิน แตงกวา มะเขือเปราะ มะเขือยาว มะเขือชุบไข่ทอด ยอดผักบุ้ง สายบัว หัวปลีลวก ยอดแคลวก ยอดมะระลวก ยอดมะระขี้นกต้ม อร่อย ทำให้กินข้าวได้มาก

น้ำพริกสวรรค์

น้ำพริกสวรรค์

น้ำพริกสวรรค์นั้นจะไม่เผ็ดมากเพราะใส่น้ำตาลทรายด้วย ทำให้มีรสชาติออกหวานกลมกล่อมอร่อย
ไม่เผ็ดมากครับ น้ำพริกสวรรค์สูตรนี้ทำจากกุ้งนางย่าง เก็บไว้ได้นาน

ส่วนผสม
กุ้งนาง 5 ตัว
น้ำตาลทรายขาว 2 ช้อนชา
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลาตี 2 ช้อนโต๊ะ
กะปิดี 1 ช้อนชา (ห่อโบตองปิ้งใฟ )
กระเทียมไทย 4-5 กลีบ
พริกชีัฟ้าเขียว-แดง 4 เม็ด
พริกเหลือง 3 เม็ด
พริกขี้หนูซอย 1/2 ชัอนชา
หอมแดง 9 หัว

วิธีทำ
1.โขลกหอมแดง กระเทียม กะปิปิ้งไฟ หั่นพริกเหลืองให้ละเอียด
พริกชี้ฟ้าเขียว-แดง ใส่ครกโขลกกับพริกขี้หนูสวน ให้พอแตก ไม่ต้องละเอียต
2.ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลทรายขาว น้ำมะนาว ชิมรส ให้ออกเปรี้ยว เผ็ด เค็ม
3.ย่างกุ้งให้พอสุก แกะเอาเปลือกออก ฉีกเนื้อกุ้งให้ฝอยๆ เอาใส่ครกโขลกพรัอมกับมันกุ้ง คลุกเคลัาให้เขัากัน
4.ปรุงรสเพิ่มตามต้องการ เสร็จแล้วตักใส่ถ้วย กินกับผักสด หรือผักลวกและขัาวสวยรัอนๆ อร่อยถูกใจมาก

ผักกินแนม ได้แก่ ถั่วพลู ยอดกระถิน ผักบุ้งลวก หน่อไม้ลวก ถ้ามีไข่ต้มยางมะตูม หรือไข่เจียวจะอร่อยยิ่งขึ้น

น้ำพริกมันกุ้ง

น้ำพริกมันกุ้ง

เครื่อง ปรุง
•กุ้งนาง 10 ตัว
•พริกขี้หนู 40 เม็ด
•กระเทียมแกะเปลือก 30 กลีบ
•กะปิดีห่อใบตองเผาไฟ 2 ช้อนโต๊ะ
•มะอึกขูดขนล้างหั่นบางๆ 2 ผล
•น้ำปลาดี น้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว ตามสมควร

วิธีทำ
•ล้างกุ้งต้มพอสุก แล้วแกะเปลือกแยกเอามันกุ้งไว้ต่างหาก โขลกพริกขี้หนู กระเทียม กะปิเผาให้ละเอียดแล้วใส่เนื้อกุ้งโขลกให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย
•นำมะอึกที่หั่นมาใส่ถ้วยน้ำพริก ปรุงรสตามใจชอบ หลังจากนั้นก็นำมันกุ้งที่แยกไว้ต่างหากนั้น มาราดหน้าน้ำพริกที่ใส่ถ้วยไว้ เสิร์ฟพร้อมผักสด

น้ำพริกกุ้งแห้ง

น้ำพริกกุ้งแห้งป่น

เครื่องปรุง
กุ้งแหังป่น 2 ชัอนโต๊ะ
กุ้งแห้งเป็นตัว 2 ชัอนโต๊ะ
พริกแห้งเม็ดโหญ่ๆ 9 เม็ต
หอมแดง 4 หัว
กระเทียมไทย 4 หัว
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลาดี 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 2 1/2 ชัอนโต๊ะ

วิธีทำ
1.นำพริกแห้ง หอมแตง กระเทียมมาเผาไฟแล้วก็นำมาโส่ครกโขลกให้ ละเอียด โส่กุ้งแห้งป่นตามลงไปโขลกให้ละเอียดเขัากัน

2.นำกระทะตั้งไฟ ใช้ไฟอ่อนๆ ใส่น้ำมันลงใป พอน้ำมะนร้อน ให้ใส่เครื่องที่โขลกไว้ลงผัดให้หอม

3.ปรุงรสด้วยน้ำปลาดี น้ำตาลปี๊บ ชิมรสตามชอบใจ

4.ตักใส่ถ้วย ใส่กุ้งแห้งเป็นตัว แล้วคลุกเคลัากัน รับประทานกับผักสด หรือผักลวก กินกับข้าวสวยรัอน

น้ำพริกปลาร้า

น้ำพริกปลาร้า
น้ำพริกปลาร้าเป็นสูตรน้ำพริกที่ทำง่ายๆ เครื่องปรุงก็
ไม่ได้มากมายอะไร ทดลองทำจิ้มผักสด ผักลวกได้เลยครับ

เครื่อง ปรุง
พริกชี้ฟ้าเขียวแดง 5 เม็ด
ปลาร้าต้มกรองเอาแต่น้ำ 3 ช้อนโต๊ะ
ปลาทูย่างแกะเอาแต่เนื้อ 2 ตัว
กระเทียมไทยแกะเปลือก 1 หัว
หอมแดง 5 หัว
น้ำปลา 2 ช้อนชา
ข่าหั่น 2 แว่น

วิธี ปรุง
1.นำ หอมแดง กระเทียม ข่า พริกชี้ฟ้ามาเผาไฟให้หอม แล้วนำมาโส่ครกโขลกพอหยาบๆ

2.โส่เนื้อปลาทูเตรียแกะไว้โขลกหยาบๆ อีกครั้ง ตักใส่ถ้วย นำน้ำปลาร้าที่เตรียมไว้
มาผสม

3.ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา แล้วคลุกเคล้าให้เขัากันดีๆ ชิมรสตามต้องการ

4.รับประทานกับข้าวสวย แกล้มกับผักสดหรือดิบ เช่น มะเขือ ผักบุ้ง แตงกวา ยอดแคลวก ชะอม ยอดกระถิน ยอดมะม่วง ฯลฯ

น้ำพริกกุ้งสด

น้ำพริกกุ้งสด
น้ำพริกกุ้งสด เป็นอาหารไทยพื้นบ้านที่มีมาแต่สมัยโบราณ การที่บ้านอยู่ใกล้แหล่งน้ำ ปูกุ้งยังอุดมสมบรูณ์ หามารับประทานได้ง่ายๆ
เพียงแค่ออกไปงม ตามท่าน้ำ หรือคลองหน้าบ้านก็ได้กุ้งแม่น้ำสดๆมาทำเป้นเมนู น้ำพริกกินกับผักสดๆในบ้านได้แล้ว แต่สมัยนี้หาไม่ค่อยได้แล้ว

เครื่อง ปรุง
กุ้งสดสับแลัว 1/2 ถ้วย
กะปิดีห่อใบตองเผาไฟ 1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมแกะเปลือกแลัว 1 หัว
มะเขือพวง 10 เม็ด
พริกขีัหนูสวน 15 เม็ด
น้ำมะนาว 1 ผล
น้ำปลา 1 ช้อนโตีะ

วิธีทำ
1.นำพริกขี้หนู กับกระเทียม และกะปิมาโขลกให้ละเอียดและเขัากันตี
2.ใส่มะเขือพวงลงไปโขลกพอแตก ใส่เนื้อกุ้งสดสับลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน
3.ตักออกโส่ถัวย แล้วก็ปรุง รสดัวยน้ำมะนาว น้ำปลา ชิมรสตามชอบใจ ถ้าตัองการเผ็ดก็เติมพริกป่นลงไปได้
4.ตักน้ำพริกกุ้งสด ใส่ถ้วยรับประทานกับขัาวสวยรัอนๆ ผักสดๆ หรือผักต้มก็ได้ เช่น มะเขือ แตงกวา ถั่วฝ้กยาว ถั่วพู ผักบุ้งลวก ฯลฯ

น้ำพริกมะเขือพวง

น้ำพริกมะเขือพวง

มะเขือพวงเป็นมะเขือชนิดหนึ่ง มีสีเขียว เปลือกหนาเหนียว เนื้อมีรสขม ขื่มเล็กน้อย นิยมนำมาเป็นผักจิ้มน้ำพริก ทั้งกินสดและต้ม นอกจากนี้ยังสามารถนำมาโขลกทำเป็นน้ำพริกได้อีกด้วย โดยเลือก มะเขือพวงที่ไม่แก่จัด ผิวสวยเต่งตึง ไม่เหี่ยว ขั้วไม่ดำ คุณค่าทางสารอาหาร มะเขือพวงมี ฟอสฟอรัส และแคลเซี่ยม แลธาตุเหล็กสูง ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน

ส่วนผสมน้ำพริกมะเขือพวง

1.พริกขึ้หนูสวน 13 เม็ค
2.กระเทียม 10 กลีบ
3.มะดัน 1 ผล
4.กุ้งแห้ง 2 ช้อนโต๊ะ
5.มะอึก 2 ผล
6.มะเขือพวง ครึ่งถ้วย
7.น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
8.น้ำมะนาว 2-3 ช้อนโต๊ะ
9.น้ำตาลปิ๊บ 2 ช้อนชา
10.กระปิ 2 ช้อนโต๊ะ

ผักสดต่างๆที่ใช้จิ้มน้ำพริก
เช่น แตงกวา มะเขือพวง ผักกาดขาว ผักบุ้งลวก ถั่วฝักยาว ถั่วพูล มะเขือเปราะ ฯลฯ

วิธีการทำ
1.ตำพริกกับกระเทียม กะปิ น้ำตาลปิ๊บให้แตกละเอียด เข้ากันได้ดี ใส่กุ้งแห้งมะเขือพวงบุบๆให้พอแตก
2.นำมะดันมาฝานเอาแต่เนื้อ มะอึกขูดผิวออกหั่นบางๆ
3.นำมะอึกและมะดันลงโขลกรวมกับพริกในครก
4.ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา ตักใส่ถ้วย กินกับผักสดๆ หรือลวกได้ตามใจชอบ

น้ำพริกพริกไทยอ่อน

น้ำพริกพริกไทยอ่อน
พริกไทยอ่อนนั้น มีความเผ็ดร้อนอยู่ในตัว แตรสชาติที่กลมกล่อม สามารถมาทำเป็นน้ำพริกได้อย่างดีทีเดียว เหมาะกับลิ้นของคนไทย

ส่วนผสม
1.เนื้อหมูบด(สะโพก) 1/4 ถ้วย
2.พริกไทยอ่อนรูดเมล็ด 3 ช้อนโต๊ะ
3.พริกขี้หนูสวน 15 เม็ค
4.พริกขี้หนูแดงเม็คใหญ่ 10 เม็ด
5.พริกชี้ฟ้าเหลืองหั่น 1 เม็ด
6.พริกชี้ฟัาแดงหั่น 1 เม็ด
7.กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ
8.น้ำปลา 1ช้อนโต๊ะ
9.กระเทียม 2 หัว
10.น้ำมะขาม ¼ ถ้วย
11.น้ำมันพืช ¼ ถ้วย
12.น้ำตาลปิ๊บ 2 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำ
1.โขลกพริกแดงเม็ดใหย่กับกระเที่ยมให้ละเอียด จากนั้นใส่กะปิ โขลกต่อให้เข้ากัน ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชพอร้อน เอาน้ำพริกที่โขลกลงผัดจนมีกลิ่นหอม ใส่หมูบด ผัดจนสุก

2.ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาล ผัดให้เข้ากัน บุบพริกไทยอ่อน พริกขี้หนู และพริกชี้ฟ้าพอแตก ใส่ลงไปผัดคลุกเคล้าจนมีกลิ่นหอม ปิดไฟ

3.ตักใส่ถ้วยแต่งหน้าด้วยพริกชี้ฟ้าซอย ยอดโหรพา กินกับเครื่องเคียงและผักสด ข้าวสวยร้อนๆ

ผักสดต่างๆที่ใช้กินกับน้ำพริก ได้แก่ ขมิ้นขาว แตงกวา ถั่วฝักยาว
ผักบุ้งไทย มะเขือต่างๆ
เครื่องเคียงมีปลาดุกฟู
แครอท ยอดโหรพา